เปิดประวัติ ท่านอ่อง จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ พระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ของรัชกาลที่ 10 ปัจจุบันเติบโตเป็นหมอไทยในอเมริกา พร้อมตั้งไบโอไม่ใช้ภาษีประชาชน
แม้จะไม่ได้เสด็จกลับไทย แต่เชื่อว่าคนไทยหลายคนต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของ หมออ่อง หรือ ท่านอ่อง จักรีวัชร กันมาบ้างแล้วแน่นอน จากการต้องไปเติบโตและใช้ชีวิตอยู่แดนไกลในประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันท่านอ่องเติบโตเป็นนายแพทย์ชื่อดัง ผู้เป็นเจ้าของศูนย์การแพทย์นานาชาติจักรีวัชร บอกเลยว่าประวัติของท่านอ่อง จักรีวัชร มีเรื่องราวน่าสนใจมากมายทีเดียว
เปิดประวัติ ‘ท่านอ่อง จักรีวัชร’ หมอไทยในอเมริกา โอรส ร.10
ท่านอ่อง หรือ นายแพทย์ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าจักรีวัชร มหิดล เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 ปัจจุบันอายุ 40 ปี
ท่านอ่อง จักรีวัชร เป็นหนึ่งในพระราชโอรสของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) และสุจาริณี วิวัชรวงศ์ หรือ หม่อมสุจาริณี มหิดล ณ อยุธยา โดยท่านอ่องเป็นถือเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 โดยมีพี่น้องอีก 4 พระองค์คือ ท่านชายอ้วน, ท่านชายอ้น, ท่านชายอิน และพระองค์หญิง
ท่านอ่อง จักรีวัชร ย้ายไปอยู่อเมริกา
เมื่อปี 2539 หลังย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ท่านอ่องได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมศึกษา Trinity Prep School ก่อนจะเข้าเรียนต่อในคณะแพทย์ จนจบหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จ
ท่านอ่อง จากหม่อมเจ้า สู่หมอไทยในอเมริกา
หลังเรียนจบด้านการแพทย์ ท่านอ่องก็ได้จัดตั้ง “ศูนย์การแพทย์นานาชาติจักรีวัชร: Chakriwat Medical Information Center (CMIC)” ขึ้นมา เพื่อให้ความรู้คนไทยเกี่ยวกับข้อมูลทางการแพทย์ที่ควรรู้
พร้อมกันนี้ท่านอ่องยังได้ เปิดช่องยูทูบขึ้นมาเพื่อสอนด้านแพทย์อีกด้วย โดยท่านได้ใช้ชื่อรายการว่า CMIC ออกอากาศทางช่อง YouTube : chakriwat vivacharawongse, MD ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามแล้วกว่า 1.74 แสนคน
ทั้งนี้ท่านอ่องเผยว่า ตนอยากเป็นหมอเพราะเคยป่วยมาก่อน เนื่องจากท่านอ่องเคยตรวจเจอก้อนเนื้อในลำคอและโรคท้าวแสนปม (นิวโรไฟโบรมาโตซิส ชนิดที่2) ทำให้ค่อย ๆ สูญเสียการได้ยิน จนต้องผ่าตัดและเข้ารับการฉายรังสีหลายครั้ง หมออ่องเลยทราบดีกว่าการพูดคุยกับคนไข้ต้องทำอย่างไรบ้าง
ปัจจุบัน “ท่านอ่อง จักรีวัชร” ยังคงใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา และออกมาเคลื่อนไหวในช่องยูทูบ รวมถึงเฟซบุ๊กส่วนอยู่บ่อยครั้ง โดยท่านอ่องได้ตั้งข้อความตรงหน้าไบโอเฟซบุ๊กของตัวเองเอาไว้ว่า “ผมไม่ได้ใช้เงินภาษีของคนไทย ได้โปรดตัดสินผมจากความสำเร็จไม่ใช่ดีเอ็นเอ”