ข่าวข่าวอาชญากรรม

คดีแอม ไซยาไนด์ “บิ๊กโจ๊ก” นำแถลงปิดคดีประวัติศาตร์ ดับ 14 ศพ รอดเพียง 1 ราย

แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาวางยาปลิดชีพเหยื่อ บิ๊กโจ๊ก นำทีมแถลงสรุปคดีวันนี้ เบ็ดเสร็จก่อคดีืทั้งหมด 15 คดี พื้นที่ 8 จังหวัด ตั้งแต่ ปี 2558 – 2566 พบผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิตเพียงรายเดียว

วันที่ 30 มิ.ย.2566 เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ร่วมแถลงคดีนางสรารัตน์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเจ้าหนี้ 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัด โดยคดีแรกเกิดในปี 2558 ต่อเนื่องปี 2566 มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย

Advertisements

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีความเกี่ยวพันกับแอม ไซยาไนด์ ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ นายหน้าขายรถมือสอง และลูกวงแชร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีประกอบด้วย

  • ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม
  • ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

รวบรวมพยานหลักฐานจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด สอบปากคำแพทย์ผู้ชันสูตร ซึ่งสถาบันนิติเวชวิทยาได้ตรวจสอบเลือดและสารคัดหลั่งในกระเพาะจากศพเหยื่อรายสุดท้ายที่ จ.ราชบุรี พบสารไซยาไนด์ในเนื้อตับของผู้ตาย รวมพยานอื่นๆ ทั้งหมดกว่า 900 ปาก

มีเอกสารเกี่ยวกับคดีถึง 26,500 แผ่น ใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานมากกว่า 3 เดือน ถือเป็นคดีที่ระดมชุดสืบสวนสอบสวนมากที่สุดในประเทศไทย จนสามารถสรุปสำนวนดำเนินคดีนางสรารัตน์ รวม 15 คดี ประกอบด้วย

  • ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น,ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ
  • ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้
  • การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอม และใช้เอกสารปลอมฯ รวมกว่า 75 ข้อหา
คดีแอมไซยาไนด์
ภาพ @สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังสรุปสำนวนดำเนินคดีกับบุคคลใกล้ชิดนางสรารัตน์ อีก 2 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายพยานหลักฐานได้แก่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีแอมคนล่าสุด และ น.ส.ธันย์นิชา ทนายความส่วนตัวของนางสรารัตน์ ดำเนินคดีฐาน เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด

Advertisements

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ผู้ต้องหาวางแผนฆาตกรรมต่อเนื่องยาวนานกว่า 8 ปี โดยวางยาพิษให้เหยื่อกินจนเสียชีวิตในลักษณะเหมือนการเจ็บป่วย ด้วยภาวะการทำงานของหัวใจล้มเหลว เพื่อให้ญาติไม่มีข้อสงสัย ก่อนหวังเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หรือล้างหนี้ที่เคยยืมกันมาซึ่งผลการวิจัยพบว่าหากฆาตกรเป็นผู้หญิงจะเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์จากคนใกล้ชิด หากเป็นผู้ชายจะเกี่ยวกับการฆ่า เรื่องทางเพศ และล่าเหยื่อเป็นหลัก

ส่วนฆาตกรรมต่อเนื่องคือการฆ่าคนมากกว่า 2 คนขึ้นไปโดยทิ้งระยะเวลาห่างกัน ต่างจากการสังหารหมู่

เหยื่อคดีแอม รายที่ 2
ภาพ @สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าสามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาได้แน่นอน และจะไม่เกืดเหตุซ้ำเช่นคดีนายสมคิด พุ่มพวง หรือ คิด เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่องที่ออกจากเรือนจำมาก่อเหตุซ้ำแน่ พร้อมยืนยันว่านางสรารัตน์ มีสภาพจิตปกติทุกอย่าง

ส่วนเงื่อนไขตามข้อกฎหมาย ที่พิจารณางดเว้นโทษประหารหากผู้ต้องหาเป็นหญิงตั้งครรภ์นั้น ตามที่นางสรารัตน์ ได้แท้งลูกไปแล้ว จึงถือว่าไม่เข้าเงื่อนไขข้างต้น และข้อหาที่สั่งฟ้องมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ขณะที่สำนวนทั้ง 15 คดีจะเริ่มทยอยส่งให้อัยการภายในวันนี้

คดีแอม วางยา (1)
ภาพ @สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

รายละเอียดเรื่อง “ขวดยาไซยาไนด์” จำนวนและอื่น ๆ

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบไซยาไนด์ที่ใช้ก่อเหตุมียี่ห้อชื่อแพรีแอค ผลิตที่ประเทศสเปน นำเข้าโดย 1 ใน 5 บริษัทในไทย ซึ่งเป็นไซยาไนด์ที่มีความเข้มข้นถึง 75% และสั่งนำเข้ามา 2,000 ขวด ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งพบเป็นล็อตเดียวกันกับขวดของกลางที่ใช้

สำหรับสินค้าพบว่าคงเหลือที่ 543 ขวด และอีก 1,600 กว่าขวด ถูกจำหน่ายไปหลายแห่ง ทั้งสถานศึกษา และเทรดเดอร์ต่างๆ 6 แห่ง ที่ประชาชนสามารถสั่งซื้อได้ โดยพบว่ามีแห่งหนึ่ง จำหน่ายให้ประชาชนแล้วนำไปใช้ฆ่าตัวตาย ฆ่าสัตว์ หรือใช้ผิดวัตถุประสงค์

สำหรับ นางสรารัตน์ ได้สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทแห่งหนึ่งข้างต้น และผู้ต้องหาให้จัดส่งผ่านแมสเซ็นเจอร์แทนไปรษณีย์.

คดีแอม วางยา
ภาพ @สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภาพ @สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
บิ๊กโจ๊ก คดีอายัดบัญชีม้า 176 ล้าน
แฟ้มภาพ
11 ผู้เสียชีวิตคดีแอมไซยาไนด์
แฟ้มภาพ

คดีแอมวันนี้ ตอนที่ 9

ขวดไซยาไนด์ แอม สรารัตน์
แฟ้มภาพ

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button