‘เปิ้ล ไอริณ’ แจ้งความอดีตผู้จัดการ-พิธีกร ฐานลักทรัพย์ กลิ่นตุโยงจุดยืนการเมือง
เปิ้ล ไอริณ แจ้งความอดีตผู้จัดการ โบว์ และพิธีกร ปอเปี๊ยะ เอาผิดฐานลักทรัพย์ และสงสัยว่าร่วมก่อเหตุ คาดโยงจุดยืนการเมือง
วันนี้ 9 มิถุนายน 2566 เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว เดินหน้าเข้าแจ้งความอดีตผู้จัดการและพิธีกรรายการดังแล้วในคดีลักทรัพย์ และสงสัยว่าร่วมกันลักทรัพย์ หลังจากที่มีประเด็นร้อน ซึ่งเปิ้ลสงสัยว่าตนถูกอดีตผู้จัดการชื่อ โบว์ และพิธีกรรายการดังชื่อ ปอเปี๊ยะ ฉกเงินค่าตัวที่ไปออกรายการ จนต้องออกมาตั้งสเตตัสพร้อมแปะหลักฐานแชตในโซเชียลเมื่อไม่กี่วันก่อน
โดยเปิ้ลได้เดินทางไปที่ สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมทนายความ เพื่อเข้าแจ้งความต่อ โบว์ และ ปอเปี๊ยะ หลังจากนั้นเปิ้ลได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบทุกคำถาม ซึ่งเปิ้ลเผยว่า
“วันนี้เปิ้ลมาแจ้งความกับคุณโบว์ และคุณปอเปี๊ยะด้วยนะคะ คุณโบว์แจ้งความข้อหาลักทรัพย์ ส่วนคุณปอเปี๊ยะแจ้งในข้อหาสงสัยในการร่วมกันลักทรัพย์ค่ะ”
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
“อันดับแรกเลย ก่อนหน้าที่เปิ้ลจะไปเวิร์คพอยท์ เปิ้ลกับโบว์มีปากเสียงกันมาก่อน เรามีปากเสียงกันอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกโบว์เขาโทรมาพูดเรื่องการเมือง เขาบอกตัวเขาไม่ได้สนับสนุนลุงตู่ เขาเคยเชียร์ลุงตู่ เขามีปัญหากับคุณประวิตรในเรื่องการฮั้วธุรกิจบางอย่าง แล้วเขาสูญเสียเงินไป 450 ล้านบาท งานอะไรไม่รู้ 500 ล้านบาท แล้วเขาได้แค่ 5 ล้านบาท แล้วเขาก็พูดเหมือนชักจูงให้เปิ้ลเปลี่ยนความคิด
เปิ้ลเลยพูดกับโบว์ไปประโยคเดียวว่า เราไม่คุยการเมืองกันดีกว่า ขอเป็นสิ่งที่พี่มีสิทธิ์คิดเอง อันนี้คือครั้งแรก
หลังจากนั้นเรามีการทำงานที่เวิร์คพอยท์ 3 ครั้งติด ปรากฏว่าตัวเปิ้ลไม่เจอโบว์เลยติดกัน 3 ครั้ง ไปอัด 3 รายการ โบว์เขาไม่ว่างตลอด เปิ้ลเลยเอาพี่นุชไปด้วย โบว์เลยโทรมาแล้วบอกว่า ต่อไปนี้มีอะไรเอาพี่นุชไปแล้วกัน เปิ้ลบอกว่า อ้าว โบว์ไม่ไปดูแลพี่ พี่เอาใครไปไม่ได้เหรอ ก็คือมีการทะเลาะกันระดับหนึ่งตรงนั้น
ก่อนที่จะมารายการนี้ โบว์ส่งข้อความมาบอกเปิ้ลว่า ไปดีลกับปอเปี๊ยะมา จะให้เปิ้ลไปออกรายการนี้ รายการเขามีบัดเจ็ตให้ 10,000 เราก็โอเค ไป ๆ ด้วยความที่ไม่ได้คดิอะไรเลย แต่ก็ตงิดใจนิด ๆ เพราะเวลาบอกแฟนคลับว่า อย่าลืมติดตามรายการนี้ ทุกคนบอกระวังตัวนะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาตกลงให้ไปก็ไป
พอไปถึงปรากฏว่าทุกอย่างมันแปลกประหลาดจากการที่เราไปร่วมงานกับเวิร์คพอยท์มาเป็น 10 ครั้งแล้ว อย่างเช่น ทุกคนจะรู้ดีว่าระบบการทำงานของเวิร์คพอยท์จะมืออาชีพมาก ไปถึงมีคนต้อนรับให้คนมาดูเรา พาไปตรวจเอทีเค พาไปทานอาหาร ทุกคนจะรู้เวิร์คพอยท์มีระบบพวกนี้อยู่ ให้การต้อนรับดาราอย่างที่สุด
แต่วันที่เปิ้ลไป เขายื่นกล่องเอทีเคมาแล้วบอก ตรวจเองนะ เปิ้ลก็เริ่มงง แล้วโบว์ก็ไม่มา โบว์มาช้าไปชั่วโมงครึ่ง เปิ้ลอยู่คนเดียวจนโทรไปรายการอื่นให้มารับหน่อย
แล้วก็ปกติดาราไปถึง เขาจะให้เราไปอยู่ในห้องเก็บตัวดาราที่เป็นห้องแต่งตัว เพื่อให้เราตรวจหน้าผม เปิ้ลก็งงว่าคราวนี้ทำไมเอาเปิ้ลมาไว้ห้องทำงาน อยู่ในห้องประชุม ไม่มีกระจกสักบาน แล้วก็แปลกอีกเรื่องหนึ่ง เปิ้ลไปกันสองคน เอาข้าวมาให้กล่องเดียว เขาบอกมีแค่นี้พอดีวันนี้วันหยุด
คือการต้อนรับตอนต้นเปิ้ลตงิดขึ้นมาแล้วว่า เอ๊ะ ทำไมตอนที่เพลงเราเปรี้ยง ๆ การต้อนรับมันคนละแบบเลย กับวันนี้ที่มาเรารู้สึกตัวเล็กตัวน้อยมาก ๆ โบว์ก็มาช้า ก็คือบอกให้รู้ว่าเปิ้ลรู้สึกผิดปกติ”
เรื่องของเงินที่เกิดขึ้น เหตุการณ์หยิบเงินเป็นอย่างไร?
“ในเรื่องของเงิน พอเปิ้ลทราบว่าค่าตอบแทน 10,000 เปิ้ลก็โอเค แต่ก่อนหน้านี้เราเคยตกลงกันว่า ถ้าเป็นงานที่เขาติดต่อเปิ้ลโดยตรงมา แล้วเปิ้ลให้โบว์คุยงานต่อ เปิ้ลจะแบ่งให้โบว์ 10% แต่ถ้างานไหนที่โบว์ไปหามา เปิ้ลจะแบ่งให้ 20% เปิ้ลพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะมันก็เป็นระบบปกติของการทำงาน
พอเสร็จงาน โบว์บอกเปิ้ลว่าได้เงินหมื่นนึง แต่เด็กของเวิร์คพอยท์เขายื่นซองมาให้เปิ้ลเซ็นรับบนใบกำกับภาษี มันก็เขียนว่า 15,000 บาท ซองก็เขียน 15,000 บาท
ตอนที่เด็กทำท่าจะยื่นซองมา โบว์ก็วิ่งมาแทรกตรงกลางเหมือนจะมาคว้าซองไป แล้วก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่โอนเอง เราก็งง เพราะเห็นซองเขียน 15,000 ในใจเปิ้ลรู้สึกเจ็บมากเลย มันไม่ได้เกี่ยวกับ 5,000 3,000 8,000 หรอก
เปิ้ลจะบอกว่าก่อนที่เปิ้ลจะเป็นดารา ทุกคนก็ทราบดี เปิ้ลไลฟ์สด 2 ชั่วโมง เปิ้ลทำงานได้เป็นแสน แต่นี่เปิ้ลตั้งใจทำและมามีจุดยืนของเปิ้ลในการที่อยากจะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วทำไมเราจะต้องมาเจออะไรอย่างนี้ด้วย
แล้วยังมามีเรื่องเงินอีกเหรอ มันปวดร้าวระดับหนึ่งแล้วนะ แล้วพอสัมภาษณ์เสร็จ เปิ้ลขึ้นรถมา โบว์ก็พูดกับเปิ้ลขึ้นมาว่า ส่วนของพี่ไม่ต้องโอนมาแล้วนะ พอดีปอเปี๊ยะเขาแบ่งให้แล้ว เขาพูดอย่างนี้จริง ๆ ทุกคำพูดเปิ้ลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เปิ้ลไม่โกหก เขาบอกไม่เป็นไรแบ่งให้แล้ว เราก็งง ปกติโบว์ใจดีนะ
แล้วเปิ้ลจะบอกว่ามันไม่ได้เกิดอย่างนี้มาครั้งเดียว เชื่อไหมคะ ดาราคนอื่นเขาไป ร้องข้ามกำแพง ได้ 2-3 หมื่น เปิ้ลได้หลักพันค่ะ แล้วโบว์ก็โอนเงินให้ผ่านบัญชีโบว์อีก แล้วใบกำกับภาษีมามันก็ไม่ใช่ยอดนั้น ซึ่งเราโดนมาแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง
รวมทั้งบางคลินิกที่เขาติดต่อเปิ้ลตรงในจำนวนเท่านี้ แล้วเปิ้ลให้คอนเน็กชั่นโบว์ไป โบว์ก็ไปติดต่อเพิ่มเงินอีกเป็นก้อนหนึ่ง แต่ให้เปิ้ลในจำนวนที่เขาติดต่อ แล้วเปิ้ลก็ต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์นั้นให้อีก
คิดง่าย ๆ นะคะ ถ้างานนี้เปิ้ลได้ 15,000 บาท แต่เปิ้ลไม่รู้ เปิ้ลคิดว่าได้ 10,000 บาท เปิ้ลแบ่งให้โบว์ไป 2,000 ก็เหลือ 8,000 บาท หักภาษีอีก 500 เท่ากับเปิ้ลได้ 50-50 % กับโบว์เลยนะ ได้คนละ 7,500 มันแฟร์ เหรอ เปิ้ลไปทำงานตั้งแต่เที่ยง เสร็จงานกว่าจะแถลงข่าวเสร็จกลับบ้าน 2 ทุ่ม ได้เงินหลักพันกลับบ้าน โดนลากไปตบปู้ยี่ปู้ยำหมดเลย
แล้วที่สำคัญพอเปิ้ลกลับบ้าน ซองโดนเปิด ซองโดนฉีกออก เปิ้ลมานับเงินมันเหลือแค่หมื่นเดียวค่ะ เปิ้ลโทรหาน้องคนหนึ่ง แล้วเขาคงไปคุยอะไรกัน โบว์ก็โทรกลับมาและยังยืนยันว่า ในส่วนของพี่เปิ้ลพอดีปอเปี๊ยะเขาจัดการ เขาแบ่งเรียบร้อยแล้ว เปิ้ลก็เลยรู้สึกว่ามันก็เกี่ยวข้องกับเขาจริง ๆ ค่ะ”
จากที่เล่ามาเหมือนไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอในลักษณะนี้ ทำไมยังทำงานกับเขาอยู่
“ก็อย่างที่บอกค่ะ เปิ้ลอยู่ในวงการนี้มา 30 ปีแล้ว เปิ้ลรู้ว่าวงการนี้มันไม่ได้ง่าย สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นตัวเอก ตัวต้น เปิ้ลอยู่ตรงนี้มา 30 ปี ก็ทนอยู่กับตรงนี้ เรารู้ดีว่าเราต้องปิดตาบ้าง เราต้องไม่เห็นบ้าง เราต้องช่างมันเถอะบ้าง เราก็พยายามมองว่าเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และก็พยายามเข้าใจคนอื่น
ทำไมเปิ้ลเจอเรื่องพวกนี้ซ้ำซาก เพราะเปิ้ลเป็นคนขี้ไว้ใจคน และเปิ้ลเป็นคนไม่ระแวงคน เมื่อวานผู้จัดการเปิ้ลคนใหม่ พี่นุช ยังด่าเปิ้ลเลย เปิ้ลยกทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นของแม่ให้กับแม่บ้านที่เป็นคนใช้ เพราะเปิ้ลไปบ้านเห็นเขาเลี้ยงลูกอ่อน 2 เดือน แล้วเปิ้ลให้เขาอยู่ฟรีมา 10 ปีก็เลยยกให้เป็นชื่อเขา ผู้จัดการก็เลยด่าว่า เธอทำไมเป็นคนใจดีแบบนี้ นี่มันมรดกแม่เธอนะ
คือเปิ้ลไม่มายด์หรอก ถ้าเกิดคนที่เขาเดือดร้อน เขามีน้อยกว่าเปิ้ล เขาอยากจะได้บางส่วนจากชีวิตเปิ้ล แต่ต้องพูดตรง ๆ ค่ะ อย่าทำอะไรแบบนี้”
ตั้งแต่เกิดเรื่องได้คุยหรือได้เคลียร์กับทางเขาไหม?
“อย่างที่บอกว่าเขาได้โทรมาคุยล่าสุด เขาก็ยังยืนยันว่าเขาได้คุยกับปอเปี๊ยะ ปอเปี๊ยะเป็นคนหางานนี้ให้ และปอเปี๊ยะก็เป็นคนที่แบ่งให้เขาเรียบร้อยแล้ว ทางเวิร์คพอยท์ได้เอาวิดีโอออกมาให้ดูว่าเขามีการควักกระเป๋า แต่กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าส่วนตัวเปิ้ล มันสมควรเหรอที่คุณจะเปิดกระเป๋าเปิ้ล แล้วควักไปในกระเป๋าเปิ้ล
เปิ้ลใส่ซองยัดไว้ลึกสุดเลยนะคะ ล้วงไปหยิบซอง แล้วฉีกซอง แล้วหยิบเงินจากกระเป๋าเปิ้ล เปิ้ลคิดว่ามันล้ำเส้นเกินไปมาก”
จริง ๆ ทำงานมาด้วยกันนาน จะสามารถเคลียร์ได้ไหม หรือพึ่งกฎหมายอย่างเดียวตอนนี้?
“คือเปิ้ลเชื่อว่าถ้าเปิ้ลไม่ออกมาพูด ดารานักแสดงอีกหลายคนก็คงต้องโดนแบบเปิ้ล แล้วมันเป็นการไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งที่ผ่านมาเปิ้ลหลับหูหลับตา ที่เปิ้ลเชื่อว่าดาราปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เช่น เปิ้ลไปอัดรายการที่ช่อง 3 โบว์เขาก็เอาลูกสาวเขามา ใส่ชุดนักร้องที่เปิ้ลใส่ แล้วก็เอามาเต้นบอกว่าพี่เปิ้ลเต้นคัฟเวอร์กับน้องหน่อย คนก็ดู TikTok เขาเป็น 100 ล้าน แต่เปิ้ลไม่ได้ว่าก็เต้นกับเด็กก็สนุกดี แต่เขาควรจะบอกเปิ้ล ว่าวันนี้เขาจะเอาใครมาร่วมงาน หรือว่าจะให้เปิ้ลทำอะไร คือเขาถือวิสาสะในชีวิตเปิ้ลตลอดเวลาเลย
พี่คิ้มไปอัดรายการที่บ้าน ทั้งที่รายการก็ติดต่อตรงนะ แต่โบว์เขามาดูแลเปิ้ล ก็เอาเพชรปากปลาร้ามาด้วย เขาบอกพี่เปิ้ลหวัดดีและเขาก็เดินมากับเพชรบอกว่า เดี๋ยวอัดรายการกับพี่คิ้มเสร็จแล้ว อัดรายการให้โบว์ต่อนะ เดี๋ยวพวกเราจะนั่งคุยกันบนเตียงพี่ คือมันถือวิสาสะแต่เปิ้ลก็ยอม
พอเสร็จงานเปิ้ลก็ยังช่วยโปรโมตรายการให้ด้วย โดยที่เปิ้ลไม่ได้คิดอะไร ขนาดเปิ้ลไลฟ์สดเขายังมาขึ้นเลยว่า โฆษณาน้ำหอมให้พี่ด้วย คือพยายามใช้ความมีชื่อเสียงของเราในการที่จะทำอะไรตลอดเวลา
จริง ๆ เปิ้ลกับโบว์เพิ่งมาสนิทกันเมื่อตอนทำเพลง ไม่ได้อยากสนิทสนมกับเขามาก แต่เห็นว่าเวลาทำเพลงเขาก็ตั้งใจช่วยงานเราได้ดี เพราะฉะนั้นเปิ้ลเองก็อยากที่จะตอบแทน อยากให้เขาได้มีส่วนจากเราบ้าง”
ในส่วนของปอเปี๊ยะ?
“ในส่วนของปอเปี๊ยะ เปิ้ลมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เปิ้ลได้รับ จากการไปทำงานที่เวิร์คพอยท์ครั้งนี้ ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เปิ้ลไม่อยากให้เกิดขึ้นในสังคม ไม่อยากให้คนอื่นที่เขาอาจจะไม่มีภูมิต้านทานเท่าเปิ้ลต้องไปเจออะไรแบบนี้อีก เปิ้ลจะบอกให้ฟังว่าเปิ้ลเจออะไรมาบ้าง
อันดับแรก เวลาที่ดาราจะไปรายการสด ซึ่งรายการสดเราต้องใช้ไหวพริบ เราไม่รู้ว่าเราจะไปเจออะไรบ้าง ทุกอย่างมาถ่ายทอดออกไปหมด ใครจะต้องส่งสคริปต์โดยละเอียดว่าจะมีคำถามอะไรบ้าง โดยเฉพาะคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ที่มันจะกระทบเป็นวงกว้าง แต่เขาส่งคำถามมาให้เปิ้ล 2 คำถามว่าจะถามเรื่องชุดลูกเสือ
โบว์บอกว่าเขาถามเรื่องชุดลูกเสือเรื่องเดียวจ้ะ แล้วเปิ้ลก็เลยบอกว่า ขอคำถามแบบละเอียดได้ไหมว่ามีอะไรอีก เขาก็เลยบอกว่าจะถามเรื่องถูกแคนเซิลงาน เขาบอกเปิ้ลมาแค่ 2 อย่างนี้จริง ๆ เพราะปกติทำงานเวิร์คพอยท์เขาจะส่งสคริปต์ 3 หน้าเป็นโปรไฟล์ แต่คราวนี้ส่งมาให้แค่นี้
เปิ้ลก็รู้สึกเอะใจ แต่พอไปถึงปุ๊บสิ่งที่เปิ้ลไม่ชอบอีกเรื่องก็คือว่า ทำไมเขาถึงให้อาจารย์เจษ ซึ่งอาจารย์เจษทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว ล่าสุดเขาก็ออกมายกย่องพรรคส้ม
ทำไมให้คนในพรรคส้มมาแอบฟังบทสนทนาที่เปิ้ลพูด โดยที่ไม่บอกเปิ้ลล่วงหน้า เวิร์คพอยท์ทำถูกไหม ตอนที่เปิ้ลกำลังพูดชุดลูกเสือ บอกว่าชุดลูกเสือพระมงกุฎเกล้า นำมาจากประเทศอังกฤษ พอเปิ้ลเล่าจบปุ๊บอาจารย์เจษเข้ามา บอกว่าคุณเปิ้ลอย่าไปยึดติดกับอดีตให้มันมาก ผมเนี่ยนะสมัยเด็ก ๆ เปิ้ลเลยพูดขึ้นมาว่า อาจารย์ไม่ให้เปิ้ลยึดติดกับอดีต แล้วทำไมอาจารย์ยึดติด พูดถึงอดีตทำไม
ปอเปี๊ยะเขาโมโหมาก ชี้หน้าแล้วด่าเปิ้ลประมาณ 4 – 5 ประโยค พี่เปิ้ลตอนพี่พูด หนูฟังพี่ตลอดเลยนะ ด่าจนทุกคนเข้าไปชมหมด บอกว่าปอเปี๊ยะเก่งเอามันอยู่เลย อีไม่มีมารยาท คืออะไร
มันคืออะไร โคตรแบบว่าหนู พูดได้เลยนะ สิ่งที่หนูทำมันเหมือนหมาลอบกัด เหมือนหมาที่รุมกัดคน คำว่าหมา ไม่หมิ่นประมาทค่ะ เพราะวิญญูชนรู้ดีว่าหมามันคือหมา มันแปลงเป็นคนไม่ได้ เปิ้ลอ่านข้อกฎหมายมาแล้ว
แล้วเขาถามเปิ้ล เปิ้ลปฏิเสธไปในเทปนั้นว่าเปิ้ลไม่อยากพูดกับอาจารย์คนไหนทั้งนั้น ไม่รู้จัก แต่เขาก็บอกว่าอาจารย์ได้ยินที่คุณเปิ้ลพูดแล้วใช่มั้ยคะ เขาให้คนแอบดักฟังเปิ้ลอยู่ โดยที่เขาไม่ได้บอกเราล่วงหน้าว่าจะมีคนนี้เข้ามาโฟนอินในรายการ มาแอบฟังเรา และเขาก็มาอธิบายโต้เถียงกับเปิ้ล เขามีสิทธิอะไรมาทำอย่างนั้น ไม่สมควร
แล้วมาบอกว่าทำไมเปิ้ลถึงชมลุงตู่ ทำไมเปิ้ลถึงบอกว่าพระแม่ธรณีมาขอบใจลุงตู่ เปิ้ลก็บอกว่าเปิ้ลไม่ได้พูด เพราะเปิ้ลเป็นคนไม่เคยพูดคำว่าขอบใจ เปิ้ลพูดคำว่าขอบคุณ พระแม่ธรณีบอกว่าขอบคุณนะลุงตู่ แล้วเขาก็ตัดท่อนนี้เอาไปลง ว่าเปิ้ล ไอริณ จำคำพูดตัวเองไม่ได้ ทำให้เปิ้ลดูเป็นคนโกหกตอแหล ดูเป็นคนที่พูดอะไรแล้วไม่จำคำพูดของตัวเอง เขาตัดเฉพาะตรงนี้ไปลง
แต่สาระที่เปิ้ลพูดเกี่ยวกับลูกเสือ สาระเกี่ยวกับเด็ก สาระเยอะแยะเกี่ยวกับผลงานประเทศ เกี่ยวกับหนี้ที่มีคนสร้างไว้ พูดอะไรเป็นสาระ 20 อย่างเขาไม่เอาทั้งสิ้น เขาเอาอย่างเดียวคือเปิ้ล ไอริณ จำคำพูดตัวเองไม่ได้ว่าพูดขอบใจหรือขอบคุณ และก็ชักนำคนมารุมด่า
รวมถึงในรายการเปิ้ลก็เริ่มเห็นแล้วเขาเขียนหัวข้อไว้ว่า เปิ้ล ไอริณ โดนทัวร์ลงพันกว่าคน เขาเหมือนพูดชักนำให้คนเข้ามาด่าและเกลียดชัง เปิ้ลก็เลยถามเขาว่าในเพจเปิ้ลคนมาชมหมื่นกว่าคน ทำไมพี่ไม่พูด ทำไมถึงชักนำตรงนี้ เขาก็โวยวายขึ้นมาเลยค่ะ”
จะแจ้งความกับปอเปี๊ยะในข้อหาอะไรบ้าง
“ปอเปี๊ยะมีในเรื่องข้อสงสัยในการร่วมกันลักทรัพย์ด้วยค่ะ เพราะตอนที่โบว์ล้วงกระเป๋าเปิ้ล ต้องให้ทุกคนเห็นภาพนะคะว่า ปอเปี๊ยะเขายืนบังแล้วโบว์ก็ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ด้านหลังเขา
ถามหน่อยว่าพิธีกรเสร็จงาน เลิกงานไปนานมาก ๆ แล้ว แล้วเขาไปยืนตรงคนที่ล้วงเงินทำไม อันนี้ก็เป็นข้อสังเกต แล้วโบว์ก็บอกเปิ้ลว่างานนี้จัดแถลงหลังจากที่เปิ้ลจะอัดรายการเสร็จ โดยเวิร์คพอยท์เป็นคนเรียกนักข่าวเอง ซึ่งเปิ้ลก็ไม่เชื่อ เปิ้ลเชื่อว่าเขาเป็นคนเรียกเอง ไม่ใช่รายการ
เวิร์คพอยท์เป็นคนเรียก แต่เวิร์คพอยท์ตัดตอนที่ไม่ดีที่สุดของเปิ้ลไปลงและด่าเปิ้ล อย่างนี้เวิร์คพ้อยท์ต้องแสดงความรับผิดชอบนะคะ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง คุณเรียกเราไปอัดรายการ เสร็จแล้วคุณก็เรียกนักข่าวไปแถลงข่าว เราต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นและคุณเอาส่วนของเราไปขยายทำให้คนเกลียดชังเรา เกิดการบิดเบือนและทำให้คนเข้าใจผิด เวิร์คพอยท์ต้องรับผิดชอบนะคะ”
ถ้าเขาฟ้องกลับ เรากังวลไหม?
“มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ฟ้าดินเองก็คงต้องงงนะคะ มันมีด้วยเหรอคนที่ตั้งใจออกมาปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เขาไปรายการนี้เพราะเขาโดนรังแกมา เขาโดนยกเลิกงาน แคนเซิลงานมา เหมือนเขาจะไปหาที่พึ่ง แต่พอไปถึงคุณเอาคนฝั่งนู้นมาดีเบตกับเขากลางรายการโดยไม่บอกเขา
ตัวหัวข้อคุณก็ไม่ได้บอกเขาครบว่าจะมีอะไรบ้าง หมกเม็ดทำไม และพอภาพออกไปคุณก็เอาแต่ส่วนไม่ดีเขาไปลง และยังจะฟ้องกลับเปิ้ลอีกเหรอ 10 ต่อเลยนะ กับความดีที่เปิ้ลอยากจะเซฟ 112 และปกป้องสถาบันฯ เปิ้ลจะต้องเจออะไรเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ เปิ้ลเชื่อว่าฟ้าดินเองคงไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอกค่ะ”