ข่าวข่าวอาชญากรรม

สถานสงเคราะห์ทารุณกรรมเด็ก วอนช่วย 280 ชีวิต ถูกขังท่อ-นอนในห้องน้ำ

สุดทน พยาบาลแฉแหลก สถานสงเคราะห์ ทารุณกรรมเด็ก อำมหิตผิดมนุษย์ ลงโทษรุนแรงกว่าติดคุก วอนช่วย 280 ชีวิต หลังทราบพฤติกรรมทั้วเอาเด็กแช่ในท่อน้ำทิ้ง เต็มด้วยสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคและมีพิษอยู่ในท่อ เด็กโดนจนชินจนมีคำเรียกติดปากโดนลงหลุม บางโดนบังคับนอนในห้องน้ำ มัดมือมัดเท้า มัดปาก บางคนโดนจับโกนผมลงโทษก็มี

จากากรณีโลกโซเชียลมีการแฉข้อมูล สถานสงเคราะห์แห่งหนึ่ง ทารุณกรรมเด็กกว่าร้อยชีวิต โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนชักโครก ภายในห้องน้ำที่ขนาดค่อนข้างเล็ก โดยเด็กหญิงคนดังกล่าวตัดผมสั้น สวมเสื้อสีเขียว ใส่กระโปรงสีน้ำเงินลายสก๊อตโดยมีเชือกสีเขียวรัดที่ปาก ที่แขน และที่ขาของน้อง

ส่วนอีกภาพเป็นภาพของเด็กนอนเรียงกัน 3 คน อยู่ใต้อ่างล้างมือภายในห้องน้ำ โดยมีข้อความในโพสต์ ว่า “ได้รับรู้เรื่องนี้มา ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางตีแผ่สู่สังคม เด็กกว่า 280 ชีวิตต้องเผชิญกับความโหดร้ายจากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล ทำไมมาตรการการทำผิดต้องมีห้องมืด ฝากสื่อด้วยนะคะ ยินดีให้ข้อมูล ฝากแชร์ เพื่อเป็นสะพานบุญให้เด็กหลายร้อยขีวิตด้วยนะคะ”

นอกจากนี้ยังมีการแชร์คลิปเสียง โดยคลิปเสียงแรกมีการเขียนบรรยายเนื้หาไว้ว่า

“คำพูดจากปากเด็กๆ หดหู่นะ เจอเรื่องครอบครัวมาเพื่อหาเซฟโซนเล็กๆให้ตัวเอง แต่กลับมาโดนแบบนี้”

“เขาจับหนูลงหลุม บางอันก็มีน้ำ บางอันก็ไม่มีน้ำ เขาทั้งกัดหนูทั้งตีหนู ทั้งเอามีดมาเชือดหนู นี่เหรอคือสถานสงเคราะห์”

ข่าวอาชญากรรมวันนี้

ส่วนคลิปเสียงที่ 2 ระบุว่า สถานสงเคราะห์เค้าพูดกับเด็กแบบนี้กันเหรอ ส่วนอีกคลิป เป็นภาพถ่ายที่เห็นว่าด้านในมีห้องอยู่ 1 ห้อง ระบุข้อความว่า มันจับเด็กขังในห้องนี้ แล้วปิดไฟทั้งมืด ทั้งยุง เด็กกรีดร้องจนแทบขาดใจ จิตใจทำด้วยอะไร

ต่อมาทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ภายในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงแห่งหนึ่ง ใน จ.สระบุรี โดยเมื่อราวๆ เดือนมกราคม ที่ผ่านมา สังเกตเห็นความผิดปกติของเด็กที่นี่ดูไม่ค่อยร่าเริง เวลาที่เราคุยด้วยจะไม่กล้าสบตา สอบถามอะไรก็จะถามคำตอบคำ มีหวาดกลัวพี่เลี้ยง เด็ก ๆ จะเรียกว่าแม่

กระทั่งวันหนึ่ง มีเด็กเข้ามาทำแผลที่ห้องพยาบาล สังเกตเห็นบาดแผลบริเวณขา จึงถามเด็กว่าโดนอะไรมา เด็กตอบว่า “โดนแม่ตี” เคยรายงานผู้ใหญ่ให้ทราบแต่พี่เลี้ยงก็อ้างว่าเด็กดื้อ จำเป็นต้องตี หลังจากนั้นได้มีโอกาสคลุกคลีกับเด็ก ๆ มากขึ้น จนเด็กเริ่มให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ จนกล้าที่จะเล่าข้อมูลให้เราฟัง ว่ามีพี่เลี้ยงหลายคน ที่ทำทารุณกับเด็ก จะโดนพี่เลี้ยงลงโทษด้วยวิธีการหลากหลาย

ส่วนใหญ่จะทำร้ายร่างกาย เคยมีคนโดนเตะจนตกบันได ถีบตกเก้าอี้ ถีบอัดตู้ ทั้งยังโดนขังในห้องมืดซึ่งทำเหมือนอย่างกับในคุกในเรือนจำ แล้วโยนตุ๊กตาที่มีความน่ากลัวใส่เด็ก

บางครั้งก็เอาเด็กไปแช่ในท่อน้ำทิ้ง ซึ่งมีแต่น้ำสกปรก และยังมีสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค และมีพิษ อยู่ภายในท่อ เรียกได้ว่าเด็กโดนจนชิน และจะมีคำเรียกการลงโทษนี้ติดปากว่า “โดนลงหลุม” เด็กบางคนยังโดนบังคับให้นอนในห้องน้ำ โดนมัดมือมัดเท้า และมัดปาก บางคนโดนจับโกนผมลงโทษก็มี

หลังจากที่รับทราบเรื่องราวจากเด็ก ๆ แล้ว มีโอกาสได้เห็นภาพการถูกทารุณกรรม จึงรายงานให้ผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ได้ทราบ และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เพราะพี่เลี้ยงเด็กที่ก่อเหตุก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย

สถานสงเคราะห์ทารุณกรรมเด็ก

มีการสร้างพยานเท็จขึ้นมา โดยโยนความผิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมด เด็กกระทำต่อเด็กเองไม่เกี่ยวข้องกับพี่เลี้ยง สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง หลังจากที่มีภาพหลุดออกไป ซึ่งกลุ่มพี่เลี้ยงได้เรียกเด็ก ทั้งหมดมารวมกัน แล้วเค้นถามว่าใครเป็นคนถ่ายภาพ ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็ก

ในฐานะที่เป็นพยาบาลวิชาชีพและเป็นนักจิตวิทยา รับไม่ได้กับพฤติกรรมที่กระทำกับเด็ก เพราะเด็กแต่ละคนที่เข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ส่วนมากมาจากครอบครัวที่ไม่สามารถดูแลได้ เด็กบางคนโดนกระทำทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจมาก่อน แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์ ซึ่งควรจะเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่กลับมาทำร้ายกับเด็กแบบนี้ “เหมือนเด็กอยู่ในคุก”

ทั้งนี้ ผู้ที่นำเรื่องออกมเาปิดเผย ยังย้ำว่า เป็นห่วงเด็กที่อยู่ข้างใน เพราะกลัวว่าในอนาคตเรื่องราวเหล่านี้จะกลายเป็นปมในใจ และทำให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้าจึงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลตรวจสอบต่อไป.

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button