รองโจ๊ก” ประกาศจัดการโรงแรมเถื่อนในภูเก็ต ย้ำลุยแน่เร็วๆนี้

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจท่องเที่ยวจับกุมนักธุรกิจเจ้าของโครงการคอนโด และ ห้องชุด ชื่อดังในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และชาวต่างชาติมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยการหลอกให้ซื้อคอนโด และห้องชุดแต่ไม่มีการก่อสร้าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.สุรเชษ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า เรื่องของการฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน หรือนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพราะภูเก็จเป็นเมืองท่องเที่ยวการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม เช่นเดียวกับความเสียหายที่เกิดจากการทำธุรกิจของชาวต่างชาติที่ใช้นอมินิคนไทยเป็นคนดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาทางกองบังกับการตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการปราบปรามบริษัททัวร์ของชาวต่างชาติที่ใช้คนไทยออกหน้ามาแล้ว และมีการจับกุมดำเนินคดีขณะนี้ศาลได้ตัดสินจำคุกมาแล้วอย่างเครือข่ายทรานลี่

แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าขณะนี้ผู้ประกอบการยังไม่หยุดดำเนินการและยังลักลอบทำทัวร์โดยใช้คนไทยบังหน้าเหมือนเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการกวาดล้างปราบปรามและสอบสวนไปให้ถึงตัวการใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพังงาที่กำลังมีการขยายสาขาของนอมินีบริษัททัวร์ โดยธุรกิจเหล่านี้จะกวาดล้างให้หมดสิ้น

พล.ต.ต.สุรเชษ กล่าวต่อไปว่า นอกจากบริษัททัวร์ที่มีนอมินีเป็นชาวต่างชาติแล้ว สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังเข้ามาดำเนินการคือ โรงแรมเถื่อนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งพบว่าขณะนี้มีนายทุนชาวต่างชาติเข้ามาดำเนิน ปรับปรุง คอนโด อพาร์ทเม้น คอร์ส เป็นโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีอยู่จำนวนมาก รวมทั้งการปรับปรุงอาคารต่างๆมาเป็นโอสเทล รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแบ็คแพ็ก

ซึ่งสถานประกอบการเหล่านี้จะต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด ว่ามีการเปิดดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้องก็จะต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะต่อไปนี้จะมีการตรวจสอบและปราบปราบอย่างจริงจังเพื่อสร้างภาพลักที่ดีให้กับการท่องเที่ยว และช่วยไม่ให้คนไทยถูกเอารัดเอาเปรียบจากการประกอบธุรกิจของคนกลุ่มนี้

สำหรับในจังหวัดภูเก็ต พบว่าปัจจุบันมีการนำบ้านพัก คอนโด อาพาร์ทเม้น มาทำเป็นโรงแรม ทำเป็นโฮสเทลเป็นจำนวนมาก เฉพาะในเขตพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ตก็มีหลายสิบราย และปัจจุบันโฮสเทลกำลังกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่ต้องการความหรูหรา ต้องการเพียงแค่มีที่พักเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าที่พัก ประกอบการสถานที่เหล่านี้จะมีราคาถูก ขณะที่กลุ่มที่นำคอนโดมาทำเป็นโรงแรมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ทำบริษัทนำเที่ยวกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่รายได้จากการท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ช้อปปิ้งไม่ได้ตกอยู่ที่คนไทย แต่รายได้ไปตกอยู่กับชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริง