จากกรณี เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 เม.ย.61 พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย ฉ้งย่อง สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกงัดตู้บริจาคเงินภายในพระอุโบสถ วัดเขารังสามัคคีธรรม (หรือสำนักสงฆ์เขารัง) ตั้งอยู่บนเนินเขารัง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อได้เดินทางถึงยังวัดเขารังสามัคคีธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบในพื้นที่บริเวณโดยรอบและภายในพระอุโบสถ วัดเขารังสามัคคีธรรม พบว่าตู้บริจาคไม้ที่มีลักษณะด้านหน้าเป็นบ้านกระจกได้ถูกคนร้ายทำการงัดแงะและได้นำเงินภายในตู้บริจาคไป จำนวน 500 บาท อีกทั้งยังพบร่องรอยของคนร้ายได้มีการปีนป่ายขึ้นไปยังแทนประดิษฐานพระพุทธมุกมณี พระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ วัดเขาฯ หมายจะขึ้นไปขโมยยอดฉัตรขององค์ประธานซึ่งเป็นทองคำแท้ โดยพบร่องรอยนิ้วมือและนิ้วเท้าของคนร้ายและบานหน้าต่างของตู้กระจกที่ด้านในประดิษฐานพระพุทธมุกมณีถูกเลื่อนออก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.20 น. ของวันที่ 27 เม.ย.61 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 1 พ.ค.61 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยกาของ พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.ปฏิพัทธ์ ถาวรประพัฒน์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.พีระสิทธิ์ หนูพยันต์ รองสว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับ 3 แรงงานชาวเมียนมาร์ คือ Mr.KYAW KYAW PHYO อายุ 23 ปี Mr.AUNG MYAT ZAW อายุ 19 ปี และ Mr.YE LIN NAING อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ยามาฮ่านูโว สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กค 1875 ภูเก็ตจำนวน 1 คัน เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในการก่อเหตุ และเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณภัตตาคารภูเก็ตวิว (ปัจจุบันปิดร้านเพื่อก่อสร้างปรับปรุงร้าน) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย บอกว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง เนื่องจากยังไม่ได้รับค่าจ้างต้องการนำเงินมาใช้ และได้ก่อเหตุเป็นครั้งแรก โดยได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในบริเวณภัตตาคารภูเก็ตวิว ประมาณ 10 วัน
หลังจากก่อเหตุเสร็จได้ขึ้นไปบนยอดเขารัง จากนั้นได้นำเงินที่ขโมยมาได้ซื้อน้ำ ซื้อขนมกินจนหมดแล้วจึงเดินทางกลับที่พัก โดยทั้ง 3 คนอ้างว่า ไม่ได้ปีนขึ้นไปบนยอดฉัตรแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง ข้อหา“ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ ในสถานที่บูชาสาธารณ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การ กระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีต่อไป
