ตามกันต่อเนื่องกับคดี แอม สรารัตน์ ผู้ต้องสงสัยคดีวางยาไซยาไนด์ ที่เมื่อวานนี้ทางตำรวจผู้ทำคดีจ่อเรียกสอบพี่สาวแอมซึ่งมีอาชีพเป็นเภสัชกรร้านยาเพื่อขยายผล หากข้อมูลประกอบคดีเพิ่มเติมนั้น
จดหมายเปิดผนึกสภาเภสัชกรรม กรณีที่ปรากฎเป็นข่าวพาดพิงให้เข้าใจผิดว่า มีเภสัชกรเข้าไปมีส่วนพัวพันการกระทำความผิด
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ 27 เมษายน 2566 เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา สภาเภสัชกรรม : The Pharmacy Council ได้ออกจดหมายเปิดผนึก แถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าว ชี้แจงว่า สารไซยาไนด์ไม่ใช่ยา แต่เป็นสารเคมีอันตราย รับผิดชอบดูแลโดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
ส่วนประเด็นข่าวที่ทำให้เข้าใจว่ามี เภสัชกร เข้าไปพัวพันกับคดี ทางสภาเภสัชกรรมยืนยันว่าหากมีการตัดสินว่ามีความเดี่ยวข้องพัวพันจริงจะลงโทษภายใต้อำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด
“เรียนแจ้งเพื่อนสมาชิกเภสัชกร และประชาชนทุกท่าน จากข่าวกรณี “สารพิษไซยาไนด์”
สภาเภสัชกรรมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้เสียชีวิตและครอบครัว และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิดและสนับสนุนการกระทำผิดทุกราย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
สภาเภสัชกรรมขอเรียนว่า “โปตัสเซียมไซยาไนด์” รวมทั้ง “โซเดียมไซยาไนด์” ไม่ใช่ยา ! “โปตัสเซียมไซยาไนด์” รวมทั้ง “โซเดียมไซยาไนด์”เป็นสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตราย ซึ่ง “โปตัสเซียมไซยาไนด์” รวมทั้ง “โซเดียมไซยาไนด์” รับผิดชอบดูแลและ ควบคุมโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้ พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และปกติจะนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรม ไม่ได้นำมาใช้ทางยา
อนึ่ง ตามที่มีประเด็นข่าวส่วนหนึ่งที่อาจทำให้เข้าใจว่ามี เภสัชกร เข้าไปพัวพันกับคดีนั้น สภาเภสัชกรรม ขอเรียนว่า เภสัชกร เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องยาและสารเคมีเพื่อใช้ในการรักษา และป้องกันโรคเท่านั้น และต้องปฏิบัติภายใต้กรอบจรรยาบรรณของการประกอบวิชาชีพ ที่กำกับดูแลโดยสภาเภสัชกรรมอย่างเคร่งครัด
หากการสืบสวน สอบสวน ขยายผลแล้ว พบว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมรายใดมีส่วนเกี่ยวพันในการกระทำผิดจริง สภาเภสัชกรรมพร้อมจะพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณ ภายใต้อำนาจหน้าที่ของสภาเภสัชกรรม ตามข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพ อย่างเคร่งครัด
