ข่าว

ผัวทหารกระทืบเมียท้อง 3 เดือน จนน้ำคร่ำแตก โอกาสแท้งลูก 50/50

กัน จอมพลัง เข้าช่วยเหลือกรณี ผัวทหารกระทืบเมียท้อง 3 เดือน จนน้ำคร่ำแตก ซี่โครงหัก โอกาสแท้งลูก 50/50 บังคับเซ็นไม่ติดใจเอาความผัว

นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เดินทางมายังกองบัญชาการทหารบ พร้อมกับหญิงท้องสามเดือน เพื่อรัองเรียนความเป็นธรรม หลังจากที่หญิงคนดังกล่าวร้องเรียนว่า ถูกสามีทหารทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ทุบตี จนน้ำคร่ำแตก และมีโอกาสแท้งได้

น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายเล่าว่า ตนถูกผัวทหารทำร้ายร่างกาย ทำให้ซี่โครงร้าว จมูกอักเสบ เบ้าตาเขียว หูฉีก น้ำคร่ำแตกเลือดออกจากช่องคลอด หวิดทำลูกเสียชีวิตในครรภ์ คุณหมอบอกเด็กในครรภ์มีโอกาสรอด 50/50 อยู่ในสภาวะใกล้แท้ง

เธอเล่าว่า ตนคบหากับทหารนายหนึ่ง ซึ่งทักเข้ามาจีบตนทางออนไลน์ เมื่อได้พูดคุยรู้สึกว่าคนๆนี้เป็นคนดี จึงเริ่มคบหากันช่วงเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งแฟนของตนนั้น ชื่อ “นายดุ๊ก” เป็นทหาร ยศ สิบเอก อยู่ค่ายนวมินท์ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี

ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ตนเองไปดินเนอร์กับแฟนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แฟนมีอาการเมา และหึงหวง คิดว่าตนเองคุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่น ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แฟนจอดรถและลากตนไปทุบตี จากนั้นพาขึ้นรถพากลับเข้าที่พักในค่าย

หลังจากกลับมาถึงแฟลตก็ลากขึ้นห้องนอน ทำการทุบตีซ้ำ จนตนเองลุกไม่ขึ้น ทั้งเตะทั้งกระทืบ จนรู้สึกพอใจ ถึงหยุด ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เหมือนแฟนควบคุมสติไม่อยู่ หลังจากทุบตีตนจนพอใจต่อหน้าแม่ของเขา ได้ขอร้องให้พาไปโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครพาไป

ผู้เสียหายเล่าต่อว่า ตอนนั้นตนเองเดินแทบไม่ไหว พอแฟนของตนได้สติ ก็มาขอโทษแล้วทำร้ายตัวเอง หลังจากนั้นจึงพาตนเองไปโรงพยาบาล ระหว่างที่หาหมอแฟนยืนคุมกำกับตลอด จึงบอกกับคุณหมอว่าลื่นล้ม เนื่องจากไม่กล้าบอกว่าถูกทำร้าย กลัวจะถูกทุบตีซ้ำ ซึ่งหมอวินิจฉัยว่า กระดูกซี่โครงร้าวและมีรอยฟกช้ำตามตัว ตนเองนอนเป็นไข้ 3-4 วัน หลังจากนั้นได้ให้อภัยกัน

ต่อมาเดือนพฤษจิกายน อยู่ๆไม่พอใจตน เห็นว่าตนคุยโทรศัพท์ทั้งๆที่ตนเองคุยงานกับลูกค้า แฟนของตนกระโดดถีบลงโซฟา และเข้ามาทุบตีตนเอง หลังจากนั้นลากเข้าห้องเพื่อไปทุบตีตนเองซ้ำ โดยครั้งนี้ตนเองบาดเจ็บจนกระดูกซี่โครงใต้ราวนมร้าว เบาตาเขียว มีรอยช้ำตามตัว นอนเป็นไข้ ซึ่งช่วงนั้นตนเองต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นพอดี วันรุ่งขึ้นตนจึงเดินทางไปญี่ปุ่น หลังจากนั้นได้มีการโทรคุยและขอโทษ ตนจึงให้อภัยอีกครั้ง

ต่อมาเดือนธันวาคม ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน แฟนของตนมีการหึงหวงอีก ครั้งนี้เอาโทรศัพท์ตีหน้าถูกจมูกทำให้ตนเองเลือดกำเดาไหล และตบหน้ากลางงานคอนเสริต และด่าทอ หลังจากกลับมาก็ได้คืนดีกัน

กระทั่งเดือนมกราคมได้ไปงานวันเกิดเพื่อนของตนเอง แฟนมีปัญหากับเพื่อนของตน ด่าเพื่อนตนจึงบอกว่าทำไมถึงด่าเพื่อนแบบนี้ แฟนตนกลับบอกว่า “ถ้าเลือกเพื่อน ต้องรับแทนเพื่อน” หลังจากนั้นพากลับโรงแรมแฟนของตนเข้ามาทุบตีตนอีก ได้คืนดีกันอีก

นางสาวเอ กล่าวว่า หลังจากนั้นมีอาการอาเจียนเหมือนคนแพ้ท้อง จึงไปตรวจครรภ์ พบว่าตนเองตั้งท้อง ทำให้ร่างกายตนเองไม่แข็งแรง ก็อยู่กินกับแฟนเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 27 กุมพาพันธ์ แฟนของตนหึงหวงตนอีกมีการขอโทรศัพท์ตนเองดู และตนก็ขอโทรศัพท์แฟนดูเช่นกัน แต่ระหว่างที่ตนดูโทรศัพท์แฟนอยู่นั้น แฟนตนจับตนเหวี่ยงลงเตียง ท้องไปกระแทกกับขอบเตียง ทำให้น้ำคร่ำไหล จากนั้นเหวี่ยงตนขึ้นเตียงกระโดดทับท้อง บีบคอ พยายามหนี พอหลุดมาได้ก็วิ่งออกมานอกห้อง เพื่อร้องให้คนช่วยเหลือ มีคนในแฟลตเห็นแต่ไม่มีใครช่วย

จากนั้นแฟนของตนตามมาดึงหัวตนเองเข้าห้อง และทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ทั้งๆที่ตนเองเลือดออก หลังจากแฟนควบคุมสติตนเองได้ จึงพาไปที่โรงพยาบาลชลบุรี ทางโรงพยาบาลได้มีการตรวจชีพจรเด็กเห็นว่าปลอดภัย แต่มีสภาวะครรภ์ไม่แข็งแรง จึงให้กลับมาพักที่บ้าน หลังจากกลับมาบ้านแฟนตนได้ไล่ตนเองออกจากบ้าน

เมื่อถูกไล่ออกจากบ้านได้ไปพักที่บ้านน้องสาวที่จ.ชลบุรี ตลอกระยะเวลา 2 สัปดาห์ แฟนโทรมาง้อตลอดขอให้กลับไปอยู่ด้วย แต่พอกลับไปแฟนบอกตนเองว่ามีแฟนใหม่แล้ว ตนพยายามบอกว่าถ้าเกิดอยากเป็นครอบครัว ให้เลิกคุยกับผู้หญิงคนอื่น แต่แฟนของตนไม่ยอม ตนจึงเดินทางกลับบ้านน้องสาว หลังจากนั้นแฟนกลับโทรมาด่าน้องของตนเองอีก ตนจึงตัดสินใจแจ้งความ

หลังแจ้งความมีผู้ใหญ่ในค่ายทหารโทรมาหาตนเอง ทั้งผู้พัน ผู้กองและหัวหน้าหน่วย โทรมาบอกว่าอยากให้จบเรื่อง เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสามารถพูดคุยกันได้ ไม่ต้องถึงขั้นไปแจ้งความโดยในเบื้องต้นได้สั่งขังแฟนของตนแล้วจำนวน 30 วัน ซึ่งตนเองรู้ว่าแฟนไม่ได้ถูกลงโทษตามที่ผู้ใหญ่บอก เนื่องจากแฟนของตนยังทักมาหาตนเองอยู่เลย ซึ่งตนเองกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตัดสินใจติดต่อ กัน จอมพลัง ให้เข้ามาช่วยเหลือ

หลังจากนั้น กัน จอมพลัง และทีมงานได้พาตนเองไปที่สโมสรกองทัพบก (กรุงเทพฯ) มีการตกลงจะเยียวยาตนเอง ยื่นข้อเสนอเงินให้จำนวน 200,000 บาท ซึ่งตนเองก็รับ หลังจากนั้นทางกองทัพได้ส่งตัวของตนไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปตรวจร่างกายและรักษา แต่เหตุการณ์กลับเป็นคนละเรื่อง ตนเองถูกส่งไปห้องผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งในห้องนั้นมีผู้ป่วยที่พูดคนเดียว ผู้ป่วยที่ทุบหัวตัวเอง และมีทหารมายืนคอยหน้าห้องตลอดเวลา และกำชับว่าหากติดต่อบุคคลภายนอกอย่าง กัน จอมพลัง และนักข่าว จะถูกส่งตัวกลับไปที่ห้องผู้ป่วยจิตเวช

มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาข่มขู่ให้ตนเองเซ็นเอกสาร เนื้อหาประมาณว่า “เซ็นยินยอมรับเงินเยียวยาและไม่ติดใจเอาความ ไม่ให้เอาเรื่องทหารที่ทำร้ายตนเอง” ซึ่งตนเองได้ปฎิเสธ ทางนักสังคมสงเคาะห์ไม่พอใจจึงฉีกอีกสารต่อหน้าตนเอง หลังจากนั้นตนเองจึงติดต่อทีมงานของ กัน จอมพลัง อีกครั้งหนึ่งให้เข้ามาช่วยเหลือตน และได้พาตนเองไปตรวจร่างกายอีกโรงพยาบาลหนึ่งย่านพระราม 4 พบว่าตนเองไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต เป็นปกติดี แต่มีความเครียด

นางสาวเอ กล่าวว่า ตอนนี้มีความเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากแฟนของตนเองเป็นทหาร ยศ สิบเอก แถมพ่อเป็นครูฝึกนายร้อย จปร. ที่ จ.นครนายก ตอนนี้ตนเองไม่สนใจเรื่องเงินแล้ว ตนเองอยากดำเนินการตามกฎหมาย อยากรู้ว่าแฟนของตนทำกับตนถึงขนาดนี้ ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมและทำไมทหารด้วยกันถึงยังช่วยปกป้อง ปกปิดช่วยเหลือกันอีก คนไม่ดีทำไมต้องเอาไว้แบบนี้ ต่อให้ตนเองรับเงินไปแล้วหรือยังไง ตนจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองจะปลอดภัย ตนเองเป็นประชาชนคนธรรมดา ต่อไปตนเองจะใช้ชีวิตยังไงในเมืองทหารมาคุกคามตนเองถึงขนาดนี้

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button