สั่งสอบวินัย ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้า ผับสมุทรปราการ หลังทะเลาะกับโต๊ะข้างๆ
ไม่แผ่ว ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้า ผับสมุทรปราการ หลังทะเลาะกับโต๊ะข้างๆ ไปแจ้งความทำร้ายร่างกายโต๊ะข้างๆ สุดท้ายโดนสอบวินัยเอง
กลายเป็นประเด็นเดือดหลังจากที่มีคลิปกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ทะเลาะวิวาทกับนักท่องเที่ยวโต๊ะข้างๆ ภายในสถานบันเทิง จ.สมุทรปราการ จนเกิดเหตุบานปลายและมีตำรวจนายหนึ่งชักปืนขึ้นมายิงขู่ จนเพื่อนของตำรวจนายนี้เข้ามาห้ามปราม นำไปสู่เหตุชุลมุนขึ้น
ทีมข่าวได้ลงไปพูดคุยกับ นายทศพร (สงวนนามสกุล) หรือ ต้อง วัย 43 ปี หนึ่งในกลุ่มคู่กรณีที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ตามหมายเรียก ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยนายต้องเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. ที่ร้านแห่งหนึ่ง ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ตนเองและเพื่อนชายหญิงรวม 8 คน ไปเที่ยวดื่มกินตามปกติ กระทั่งร้านปิดและตนเองขอขึ้นไปร้องเพลงสุดท้าย ระหว่างนั้นกลุ่มเพื่อนของตนเองก็พากันร้องเพลงตามอย่างสนุกสนาน ไม่นานมีเสียงจากโต๊ะข้าง ๆ ตะโกนโวยวายด่าทอ ทำให้น้องที่มาด้วยกันพยายามเข้าไปเคลียร์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครทราบว่า วัยรุ่นโต๊ะดังกล่าวที่มากัน 4 คน เป็นตำรวจถึง 3 คน
หลังจากที่น้องเข้าไปเคลียร์ ปรากฏว่ามีน้องที่รู้จักกันคนหนึ่งเข้ามาขอโทษที่เพื่อนในกลุ่มพูดจาไม่ดี แต่แทนที่เรื่องจะจบ กลับมีหนึ่งในกลุ่มโวยวายด่าทอ ทำให้น้องในกลุ่มตนเองอีกคนเข้าไปเคลียร์อีกครั้ง แต่กลับถูกอีกฝ่ายให้ของลับ ทำให้น้องที่เข้าไปเคลียร์ตบหน้าชายคนดังกล่าว จากนั้นก็เกิดชกต่อยชุลมุนกัน
ไม่นานก็ได้ยินเสียงยิงปืนดังขึ้นหน้าร้าน จึงหันไปมองพบว่า มีชายคนหนึ่งที่มาในกลุ่มคู่กรณีชักปืนยิงขึ้นฟ้า ตนเองจึงเข้าไปถามว่ายิงปืนทำไม และทำไมต้องพกปืนเข้ามา อีกทั้งตนเองและเพื่อนมากันมือเปล่า ทำให้ชายคนที่ยิงปืนถอยหลังออกไป ตนเองจึงหันมาชกต่อยกับอีกคนในกลุ่มคู่กรณี กระทั่งมีรถสายตรวจของ สภ.สำโรงเหนือ มาถึงที่เกิดเหตุ และเชิญชายคนที่ยิงปืนขึ้นรถสายตรวจ โดยไม่มีการล็อกกุญแจมือ
ตอนนั้นตนเองยังโวยวายถามสายตรวจ สภ.สำโรงเหนือ ว่า ทำไมไม่ล็อกกุญแจมือ อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ไม่ใช่ สภ.สำโรงเหนือ จากนั้นไม่นานก็มีสายตรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้ามาระงับเหตุ กระทั่งต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ซึ่งเรื่องราวตนเองคิดว่าจะจบลงในคืนนั้น เพราะตนเองก็ไม่ได้แจ้งความ
เรื่องราวตนเองคิดว่าจะจบลงในคืนนั้นเพราะตนเองก็ไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด จนมาทราบจากพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่ากลุ่มคู่กรณีมีการมาแจ้งความ จึงเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และแจ้งความกลับกลุ่มคู่กรณีเช่นกัน และมาทราบภายหลังว่ากลุ่มคู่กรณีเป็นตำรวจของ สภ.สำโรงเหนือ 2 นาย และตำรวจของกองกำกับการสืบจังหวัดอีก 1 นาย ซึ่งพอทราบว่าคู่กรณีเป็นตำรวจและมีการใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงร้องต่อสื่อมวลชนด้วยเช่นกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุไม่นาน ทางสายตรวจได้เข้าระงับเหตุจนแยกย้ายกันกลับ วันต่อมามีกลุ่มของตำรวจคือ ส.ต.อ.จตุพงษ์ เสร็จกิจ อายุ 32 ปี สังกัด สภ.สำโรงเหนือ,ส.ต.อ.ศุภกร จันทร์ขจร อายุ 27 ปี สังกัด สภ.สำโรงเหนือ, ส.ต.อ.ศรัณยพงศ์ นิธิเกียรติศิริ อายุ 29 ปี สังกัด กก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ เดินทางมาแจ้งความเอาผิดกลุ่มคู่กรณีในข้อหาทำร้ายร่างกาย
หลังสอบสวนจนทราบตัวกลุ่มคู่กรณีตามที่มีการระบุชี้ตัว จึงมีการออกหมายเรียกอีกฝ่ายมาพบ ซึ่งอีกฝ่ายก็ประสงค์แจ้งความกลับเช่นกัน และกล่าวว่าฝ่ายตำรวจใช้ปืนยิงข่มขู่ ตนเองจึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนไปรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อม จนพบกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน ว่า มีตำรวจในกลุ่มใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่จริง ได้ทำเรื่องและส่งสำนวนเบื้องต้นให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาเรื่องความผิดทางวินัยแล้ว