ข่าวภูมิภาค

ผู้ว่าฯกระบี่ ลงพื้นที่ สำรวจความเสียหาย เหตุไฟไหม้ที่เกาะพีพี พร้อมสั่งตั้งศูนย์วันสต๊อบเซอร์วิสช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ก.พ.61 พ.ต.ท.มล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย
เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน
เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุไฟไหม้ที่บริเวณแยก
ซอยสลิงกี้ เกาะพีพี ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคาร ร้านอาหาร ร้านค้า และที่พัก
เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับความเสียหายรวม 25 คูหา มูลค่าความเสียหาย กว่า 30 ล้านบาท และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย จากการกระโดจากที่สูง การวิ่งหนี และโดนประกายไฟ ซึ่งทยอยออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้สำรวจพื้นที่ก็ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยว ทั้งส่วนราชการ และหน่วยงานท้องถิ่น
รวมทั้งผู้ประกอบการ เพื่อจัดตั้งศูนย์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้ประกอบการ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ทั้งการจัดที่พักชั่วคราว มีการตั้งศูนย์รับแจ้งบริเวณจุดเกิดเหตุแบบวันสต๊อป เซอร์วิส โดยมี เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาสาธารณะภัยจังหวัดกระบี่
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่น คอยรับเรื่อง
เพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งขณะนี้มีผู้ประสบภัยทยอยลงทะเบียนต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องชาวต่างชาติที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานก็เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า เกิดจากถังแก็ส รั่วที่ร้านอาหาร October ก่อนที่จะเกิดประกายไฟ และเกิดระเบิดขึ้น จนเกิดเพลิงไหม้ลุกลามร้านอาหารฝั่งตรงข้าม ร้านค้า และที่พักบริเวณใกล้เคียง ได้รับความเสียหาย

พ.ต.ท.มล.กิติบดี กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามแก้ปัญหาดูและและติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งคนไทยและต่างชาติ และมีการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งแบบวันสต๊อปเซอร์วิสโดยมีเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องคอยรับเรื่อง ในจุดเดียวกัน พร้อมจัดหาสถานที่พักรองรับผู้ที่ประสบภัย และมาตรป้องกันในระยะสั้น คือให้มีการฝึกซ้อมแผนการระงับเหตุอัคคีภัย แก่ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่เพื่อให้มีความพร้อม และสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และมีการติดตั้งระบบดับเพลิงชั่วคราว เช่นรถดับเพลิงเคลื่อนที่มาติดตั้งในพื้นที่ ตามจุดต่างๆ ส่วนมาตรการในระยะยาว นั้นก็จะส่งเสริมให้สถานประกอบการ ติดตั้งระบบ ป้องกันอัคคีภัย โดยมีการติดตั้งท่อไฮแดรนซ์ หากมีเหตุเพลิงไหม้ก็สามารถต่อสายดับเพลิงนำน้ำไปฉีดสกัดเพลิงได้ทันที
และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการติดตั้งระบบเตือนภัย และระบบสปริงเกอร์ในสถานประกอบการ เพื่อความปลอดภัยด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button