ข่าวข่าวการเมือง

ตะวัน-แบม ประกาศไม่รับสาร ไม่รับน้ำ หลังศาลไม่ให้ประกัน ‘ทัตพงศ์’

ตะวัน และ แบม ผู้ต้องหา ม.112 ประกาศไม่รับสาร ไม่รับน้ำอาหาร หรืออะไรเข้าร่างกายทั้งสิ้น หลังศาลไม่ให้ประกัน ‘ทัตพงศ์’ อีกหนึ่งผู้ต้องหาทางการเมือง

น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม สองผู้ต้องหา ม.112 ที่อดน้ำ-อาหาร มาติดต่อกันหลายวัน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง ได้ออกมาประกาศว่าพวกตนจะ ไม่รับสาร ไม่รับน้ำ ไม่รับอะไรเข้าร่างกายทั้งสิ้น ภายหลังจากที่ ทัตพงศ์ วัย 25 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองวัตถุระเบิด ม็อบ21พฤศจิกา64 ถูกส่งเข้าเรือนจำหลังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว

เฟซบุ๊กของตะวัน ระบุว่า “การที่ทัตพงศ์ต้องเดินเข้าเรือนจำในวันนี้ ทำให้รู้ว่าศาลไม่เคยรับฟังสิ่งที่พวกหนูพยายามเรียกร้องหรืออธิบายเลย

นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกหนูจะไม่รับสาร ไม่รับน้ำ ไม่รับอะไรเข้าร่างกายทั้งสิ้น

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนับตั้งแต่พวกหนูถอนประกันตัวเองเดินเข้าเรือนจำ พวกหนูยังคงยืนยันเรื่องเดิม คือ ”เราทุกคนไม่มีใครปลอดภัย ถ้าศาลยังไม่ทำตามกฎหมาย”

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (1 มี.ค.) บนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ เมื่อเวลา 16.40 น. ศาลอาญามีคำสั่งไม่ให้ประกัน ทัตพงศ์ เขียวขาว อายุ 25 ปี หลังอัยการสั่งฟ้องคดี กรณีที่เจ้าตัวถูกกล่าวหาว่าครอบครองระเบิด ระหว่างการชุมนุมของทะลุแก๊ส ณ ถนนราชปรารภ เมื่อ 21 พ.ย. 64 และผลคำสั่งของศาลในวันนี้ ทัตพงศ์ต้องเข้าเรือนจำทันที

ศาลระบุคำสั่ง “กรณีการกระทำที่ถูกกล่าวหา เป็นความผิดร้ายแรง มีอัตราโทษสูง เป็นการกระทำเกี่ยวกับวัตถุระเบิดที่ไม่สามารถออกใบอนุญาต ทำให้เกิดระเบิดในถนนสาธารณะกลางเมือง อันอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงมาก หากให้ปล่อยชั่วคราว อาจหลบหนีได้ ยกคำร้อง”

ก่อนอัยการสั่งฟ้องคดี ทัตพงศ์ เขียวขาว ถูกจับกุมตามหมายจับข้างต้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี เมื่อ 16 พ.ย. 2564 และถูกฝากขังระหว่างพิจารณาคดีเมื่อ 17 พ.ย. 2565-8 ก.พ. 2566 รวมระยะเวลา 84 วัน

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button