เด็ก ม.1 ถูกบูลลี่ เขียนด่า กรีดสมุด สาดน้ำใส่ จนเข้าโรงพยาบาล
เด็ก ม.1 ถูกบูลลี่ เขียนด่า กรีดสมุด สาดน้ำใส่ จนเด็กป่วยซึมเศร้าหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพื่อนเผยสาเหตุบูลลี่ชอบโกหกสร้างเรื่อง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.ศิริรัตน์ อายุ 36 ปี หลังวัดป่าประดู่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ภายหลังจากที่ ผู้เป็นแม่ได้ร้องกับสื่อว่า ลูกสาว ม.1 ถูกบูลลี่ ตั้งแต่ทำลายข้าวของ กรีดสมุด เขียนคำด่าทอต่อว่า จนทำให้เด็กนักเรียนคนดังกล่าว ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ผู้เป็นแม่เล่าว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง กับบุตรสาวของตนเอง อายุ 13 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สำหรับเรื่องดังกล่าว ตนเองเพิ่งมาทราบ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนเองได้รับแจ้งจากทางโรงเรียน ว่าบุตรสาวป่วยขณะทางโรงเรียนได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ระยอง ตนเองจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล พบว่าบุตรสาวเงียบไม่ยอมพูดกับใคร แล้วยังออกอาการอาละวาดขว้างปาสิ่งของ จนต้องเรียกพยาบาลมาช่วย อาการจึงเริ่มสงบ
วันต่อมา (17 ก.พ.) ลูกสาวหยุดเรียน ตนจึงเดินทางไปยังโรงเรียนลูกสาวเพื่อไปเก็บข้าวของลูกสาวที่ลืมทิ้งไว้ที่โรงเรียน พอเห็นกระเป๋าก็ถึงกับช็อก เพราะมีน้ำหมึกปากกาเลอะเทอะเต็มกระเป๋า สมุดถูกกรีดจนขาด แล้วยังมีการเขียนข้อความด่าอย่างรุนแรงหลายข้อความ
จึงเข้าพบกับครูเพื่อให้ทราบเรื่อง ซึ่งครูก็ชี้แจงและลงโทษเด็กที่จับสมุดทุกคน ซึ่งตนคิดว่าถูกตีก็เท่านั้นเพราะก็ไม่ได้แก้ไขอะไรเพราะทรัพย์สินเสียหายและสภาพจิตใจน้องก็แย่มาก ตนก็ไม่ได้คุยมากเพราะตนจะต้องรีบกลับไปพบจิตแพทย์เรื่องอาการของลูกสาว และผลใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลระยองออกมาว่าลูกสาวนั้น “มีความผิดปกติแบบโรคจิตเภทกึ่งอารมณ์แปรปรวนชนิดซึมเศร้า” จึงรับเอายามารับประทานเพื่อรักษา
ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ แม่ก็นัดเคลียร์ใจกับเพื่อนๆ ของลูก ซึ่งตนก็ถามว่าเกลียดลูกแม่ตรงไหน ลูกแม่ไปทำอะไรให้ ทางเพื่อนๆ น้องก็บอกว่าน้องได้มีการโกหกเรื่องการสร้างตัวตน ซึ่งก็ถามน้องต่อหน้าเพื่อนๆ น้องก็บอกว่าจริงน้องโกหกไปเพราะว่าต้องการให้เพื่อนยอมรับในตัวเอง ซึ่งแม่ก็ให้น้องขอโทษเพื่อนๆ และก็บอกกับลูกว่าเราต้องอยู่กับความจริง น้องทำแบบนี้ไม่ถูก หลังจากนั้นแม่ก็คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว
แต่ก็ไม่จบ จนมาเจอปัญหาแบบนี้คือกรีดสมุดน้องและบูลลี่น้อง คุณแม่ก็เสียใจมาก ต้องการให้บุตรสาวหายจากซึมเศร้า และต้องการให้ทางโรงเรียนช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว อย่าปล่อยผ่านเพราะนี่มันเป็นเรื่องของผลกระทบต่อจิตใจเด็ก และเพื่อหาทางออก ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายกับบุตรสาวของตนเอง และหลังน้องเรียนจบ ม.1 ตนคิดว่าตนกับน้องจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ภาคเหนือเพื่อแก้ปัญหานี้
ขณะที่ลูกสาวเล่าว่า ตนโดนแกล้งหนักมาก โดนเอาน้ำสาดใส่ตอนอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร และยังเขียนข้อความด่าบนโต๊ะของตน หนักสุดก็กรีดสมุดและก็บีบหมึกปากกาทิ้ง ส่วนครูประจำชั้นก็ฝากตนมาบอกแม่ว่าให้มาเขียนใบลาออกได้แล้ว
เบื้องต้น ผอ.เพิ่งจะทราบเรื่องจากแม่น้อง และจะเรียกครูประจำชั้นมาสอบถามต้นสายปลายเหตุเรื่องดังกล่าวและหาทางแก้ร่วมกัน