แม่ร้องสายไหมต้องรอด เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่บังคับเสพกัญชา จนหัวใจหยุดเต้น
![](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2023/02/บังคับเสพกัญชา.jpg)
แม่หอบหลักฐานพาลูกร้องสายไหมต้องรอด เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่บังคับเสพกัญชา จนหัวใจหยุดเต้น แถมขู่ให้บอกครูว่าตนเสพคนเดียว
นางสาวฟ้า เดินทางพร้อมเด็กชาย เอ นามสมมุติ เยาวชนอายุ 14 ปี หอบหลักฐานเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ร้องขอความช่วยเหลือหลังถูกรุ่นพี่ ในโรงเรียนเดียวกันบังคับให้สูบกัญชา จนน็อคหัวใจหยุดเต้น จนต้องปั๊มหัวใจพารักษาที่โรงพยาบาล
เด็กชาย เอ เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ซึ่งช่วงดังกล่าวยังอยู่ในเวลาเรียน ขณะที่ตนเองจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็พบว่าในห้องน้ำมีควันลอยขึ้น ตนเองรู้ว่าในห้องน้ำดังกล่าวมีการสูบกัญชากันเพราะเป็นที่รู้กัน
แต่เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่กำลังจะเดินออกเพื่อย้ายไปเข้าห้องน้ำฝั่งอื่น รุ่นพี่ ม.3 จำนวน 3 คนที่สูบกัญชาอยู่ในห้องน้ำก็ได้เดินออกมาเรียกพร้อมลากตัวตนเองเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่รุ่นพี่จะบังคับให้สูบกัญชาจากบ้องกัญชา ที่รุ่นพี่เตรียมไว้ ซึ่งตนเองพยายามปฏิเสธ แต่รุ่นพี่ไม่ยอม พร้อมเอาสิ่งของบางอย่างที่ไม่ใช่กัญชาใส่เข้าไปในบ้องกัญชาด้วย และบอกตนว่าพี่มีอีกเป็นถุงๆ ก่อนจะบังคับให้ตนเองสูบจนครั้งแรกสำลัก และรุ่นพี่ยังได้บังคับให้สูบอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะปล่อยตนเองออกไปจากห้องน้ำ
ตนเองพยายามเดินกลับห้องเรียน แต่มีอาการมึนหัวอย่างรุนแรง เริ่มเห็นภาพเบลอ และปวดห้อง ก่อนจะเดินไปอาเจียน และเพื่อนได้พาไปนอนที่หลังห้องเรียน ซึ่งขณะนั้นตนเองเริ่มจะไม่รู้สึกตัว แต่ได้ยินเสียงว่ามีคนพูดว่า อย่านอนถ้านอนจะอ้วก แต่ตนไม่รู้ว่าใคร แต่ตนเองบอกแค่ว่าไม่ไหวแล้วขอนอน ก่อนจะภาพตัดไม่รู้สึกตัวอีก มารู้สึกตัวว่ามีคนกดหน้าอกและได้ยินเสียงคุณครูคนหนึ่งก่อนจะสลบไปอีกรอบ รู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาลแล้ว
ด้านผู้เป็นแม่เล่าว่า หลังเกิดเรื่องตนเองได้รับสายจากเพื่อนของลูกว่า ลูกชายตนเองไม่สบาย ให้รีบมาที่โรงเรียน ก่อนที่ขณะตนเองกำลังเดินทางไป ได้มีสายโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกว่าให้ไปที่โรงพยาบาล เมื่อตนเองถึงโรงพยาบาล ทางแพทย์ เจ้าของไข้ลูกชายได้บอกกับตนเองว่าให้ทำใจเพราะลูกชายหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ก่อนที่ทีมแพทย์จะได้ช่วยกันปั๊มหัวใจ จนลูกชายกลับมาหัวใจเต้นอีกครั้ง
ตลอดระยะเวลาที่ ลูกชายพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตนเองได้พยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปกับทางโรงเรียน ซึ่งในตอนแรกครูที่ปรึกษาได้มีการบอกกับตนเองว่า รู้ตัวรุ่นพี่ที่บังคับให้ลูกชายตนเองสูบกัญชาในครั้งนี้แล้ว ก่อนที่เมื่อตนเองพยายามโทรตามเรื่อง แต่ก็ไม่สามารถติดต่อทางโรงเรียนได้ เนื่องจากทางโรงเรียนมีกิจกรรม
จนต่อมาสามารถติดต่อกับทาง ผู้อำนวยการโรงเรียนได้อีกครั้งในช่วงสายๆ วันอาทิตย์ เพื่อสอบถามว่าทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือยัง ซึ่งทาง ผอ. แจ้งว่ารับเรื่องแล้ว ซึ่งตนเองได้สอบถามไปว่าเรื่องเกิดขึ้นขนาดนี้ทำไมทางโรงเรียนจึงไม่มีการติดต่ออะไรกับตนเองเลยหรือ
ต่อมา ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ติดต่อมาอีกครั้งว่า ทางโรงเรียนตรวจสอบแล้วพบว่า ลูกชายตนเองไปซื้อกัญชามาจากรุ่นพี่ ม.2 และเอามาเสพเอง เอาอุปกรณ์มาเอง และน็อคเอง ทางโรงเรียนมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดของห้องน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งตนเองได้พยายามสอบถามเพื่อขอตรวจสอบกล้องดังกล่าว แต่ทางโรงเรียนไม่มีการให้ตนเองได้ดู
ทางโรงเรียนยังมีการบอกว่าลูกชายตนเองมีการใช้กัญชามานานแล้วไม่เคยมีใครบังคับ ตนเองจึงได้สอบถามกลับไปว่าทำไมทางโรงเรียนจึงกลับกรอกไปมาแบบนี้แต่ไม่ได้คำตอบ จึงตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลือ เพราะหลังเกิดเรื่องตนเองรู้สึกว่าลูกชายไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากทางโรงเรียน
และยังมีการถูกกล่าวหาว่าลูกชายเป็นคนเสพกัญชาด้วยตนเองจนถึงขั้นน็อคทั้งๆ ที่มีครูมาบอกกับตนเองในตอนแรกว่าเป็นการถูกบังคับ ซึ่งคิดว่าครอบครัวตนเองจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการที่ทางโรงเรียนพยายามปกปิดความผิดเพื่อป้องกันความเสียหายไปถึงตัวโรงเรียน แต่กลับโยนความผิดให้กับลูกชายตนเอง
รวมถึงตลอดระยะเวลาการรักษาไม่เคยมีคนของทางโรงเรียนเดินทางมาหาลูกชายตนเองที่โรงพยาบาลแม้แต่ครั้งเดียว นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากที่ได้มีการสอบถามพูดคุยถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการที่รุ่นพี่มาบังคับให้รุ่นน้องเสพกัญชาจนน็อค หัวใจหยุดเต้นจนต้องรักษาที่โรงพยาบาลนานถึง 5 วัน ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทางโรงเรียนจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้
ประกอบกับทางตัวเยาวชนที่เป็นผู้เสียหายก็ยืนยันได้ชัดเจนว่ารุ่นพี่กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มหัวโจก ที่เอาบ้องกัญชาเข้าไปเสพในโรงเรียนซึ่งเด็กๆ ทุกคนรู้กัน แต่ไม่เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ทางโรงเรียนทำไมถึงไม่ทราบและไม่มีการป้องกัน เพราะในพื้นที่โรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดกัญชา ไม่ควรให้เกิดเรื่องแบบนี้ และจะฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กกลุ่มนี้ก่อเหตุในลักษณะนี้อีก