ข่าวข่าวภูมิภาค

อ.เจษฎา เตือน แมวตาเพชร ต้องรักษา ปล่อยไว้อันตราย ไม่ได้ให้โชค

ชาวเน็ตฮือฮา แมวตาเพชร แมวน่ารักตาสองสี อ.เจษฎา เตือนต้นเหตุคือตาเป็นต้อ ปล่อยไว้เป็นอันตรายเสี่ยงตาบอดถึงตายได้ แนะรีบพาไปหาหมอ

ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งโพสต์คลิปน้องแมวตาเพชรสุดน่ารัก พร้อมข้อความระบุว่า “ฝากน้องด้วยนะครับทุกคน #คนรักน้องแมว” โดยแมวตัวดังกล่าวมีตาสองสี ข้างนึงเป็นตาธรรมดา ส่วนอีกข้างเป็นสีสะท้อนแสง กลายเป็นกระแสฮือฮาและมีคนเข้าชมคลิปกว่า 1.4 ล้านครั้ง โดยมีประชาชนเข้ามาเสนอราคาเพื่อซื้อแมวตัวดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก พูดถึงแมวตาเพชร หรือ เพชรตาแมวว่า จริงๆแล้วมันอาจจะเป็นความผิดปกติของดวงตาแมวและอาจจะเป็นโรคต้อได้ ซึ่งอันตรายกับตัวน้องแมวมาก

อ.เจษฎา ระบุว่า “เรามักจะได้ยินข่าวเรื่อง “แมวตาเพชร” หรือ “เพชรตาแมว” เป็นระยะๆ พร้อมกับความเชื่อที่ว่า ถ้ามีไว้ จะทำให้เกิดโชคลาภต่างๆ นานา เลยมีการซื้อขายกันในราคาที่สูงมาก

แต่จริงๆ แล้ว เมื่อแมวตัวนั้นตายไป ลักษณะที่ดูคล้ายกับมีเพชรพลอยอยู่ในตาของแมว ก็จะหายไปด้วย เพราะว่าอาการแวววาวภายในตาของแมวนั้น อาจจะเป็นความผิดปกติของดวงตาของแมว เป็นโรค “ต้อ” ของตาแมว คล้ายกับคนก็เป็นโรคต้อตาได้วเช่นกัน

สำหรับเรื่อง “แมวตาเพชร” นี้ ในแง่มุมวิทยาศาสตร์ รศ. นายสัตวแพทย์ ปานเทพ รัตนากร อดีตคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เคยอธิบายไว้ว่า “เรื่องนี้ได้มีการอธิบายไปหลายครั้งแล้ว ว่า แมวมีความผิดปกติ แมวป่วย ตาของแมวเป็นต้อ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร ตรงกันข้ามแมวกลับน่าสงสารด้วยซ้ำ

ความผิดปกติดังกล่าวเกิดขึ้นที่เลนส์ตาแมวซึ่งเป็นต้อ จึงมีลักษณะสีขุ่นมัวและมีประกายออกมา ดังนั้นความเชื่อที่ว่าแมวตาเพชร ควรเลิกกันได้แล้ว ไม่่ใช่หลงเชื่องมงาย

อยากให้ความรู้ว่า ความผิดปกติดังกล่าว พบได้เป็นระยะ ๆ โดยแมวเป็นต้ออาจพบได้ตั้งแต่แมวอายุยังน้อย ๆ หรือ อาจจะพบภายหลังจากที่แมวโตขึ้น ซึ่งการที่แมวเป็นต้อ เป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาจะดีกว่า
เพราะหากปล่อยไว้ พอถึงระยะหนึ่ง แมวอาจมีความทรมาน เจ็บปวดบริเวณดวงตา การที่แมวเป็นต้อไม่สามารถมองเห็นได้ อาจทำให้แมวเกิดอุบัติเหตุ หาอาหารกินไม่ได้ หากปล่อยไว้อาจมีการอักเสบ ลุกลาม เจ็บปวด ดังนั้นควรพาไปพบสัตวแพทย์ ไม่ใช่เก็บไว้อย่างนั้น เพราะบางครั้งแมวป่วยมาก อาจถึงขั้นต้องควักลูกตาทิ้งไป

ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ต้องให้สัตวแพทย์ดูแลรักษาโดยตรง เรื่องนี้อยากแนะนำคนที่เป็นเจ้าของแมว รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย

เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้ว่าแมวมีความผิดปกติ แมวป่วย ไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button