ประวัติMr Beast จริงหรือไม่ ? ข่าวเปลี่ยนตัวเจ้าของ Twitter คนใหม่ จากเดิมที่เป็น Elon Musk ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มกราคม Mr Beast ยูทูปเบอร์คนดังระลับโลก วัย 24 ปี ที่มียอด follower สูงถึง 129 คน ได้ออกมาเปลี่ยน Bio ใน Twitter ของตัวเองว่าเป็น “ ซูเปอร์ซีอีโออย่างเป็นทางการของ Twitter ” สร้างการถกเถียงในโลกออนไลน์ไม่หยุด
Elon Musk CEO คนปัจจุบันของ Twitter ที่ทุกคนรู้จักได้ออกมาเปิดโพล เขาควรออกจากตำแหน่งหรือไม่.ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว น่าทึ่ง ผลลัพธ์ออกมาถึง 57 % เห็นด้วยว่าเขาควรวางมือจากการเป็นเจ้าของ Twitter
จากผลโหวต ทำให้ Elon Musk ออกมาทวิตข้อความว่า “ เชาพร้อมจะลงจากตำแหน่งนทีถ้าหาคนที่ ‘โง่’ และ ‘บ้า’ พอให้มารับตำแหน่งแทนได้ ” แน่นอนว่า Mr Beast ตอบกลับ “ผมสามารถเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ได้ไหม?”
น่าติดตามขนาดนี้ มาเปิดประวัติยูทูปเบอร์หนุ่ม Mr Beast กันดีกว่า เขาคือใครกันแน่
ประวัติ Mr Beast ทำความรู้จัก ว่าที่ CEO Twitter คนใหม่
Mr Beast หรือ จิมมี โดนัลด์สัน Youtuber พันล้าน เขาคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ซึ่ง ณ ขณะนี้ เขาได้ขึ้นปกนิตยสาร Forbes ในฐานะ ‘30 Under 30’ ประจำปี 2023
Mr Beast เริ่มทำช่องยูทูปตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยมีคอนเทนต์หลากหลายแบบมาก ๆ ตั้งแต่การสตรีมเกม ๆ (ในรายการ ‘Let’s Play’) โดยเน้นเกมอย่าง Minecraft และ Call of Duty: Black Ops 2 หรือไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ซึ่งในตอนนั้นช่องของเขาก็ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก
ต่อมาในปี 2015 และ 2016 จิมมีเริ่มมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นจากการทำรายการ ‘Worst Intros’ ซึ่งเป็นคอนเทนต์แนววิจารณ์ยูทูเบอร์ช่องอื่น ทำให้เขามีผู้ติดตามถึง 30,000 ราย จากนั้นเขาได้ตัดสินใจดรอปออกจากมหาวิทยาลัยอีสต์แคโรไลนาในช่วงกลางปี 2016 เพื่อลุยงานยูทูปอย่างเต็มที่ แต่ในช่วงนั้น แม่ของเขาก็ไม่เห็นด้วย จิมมีจึงตัดสินใจย้ายออกจากบ้านเพื่อมาตามความฝันด้วยตัวเอง
จนกระทั่งในปี 2017 ช่องของเขามียอดวิวแตะหลักหมื่นภายในไม่กี่วัน และเป็นจุดเริ่มต้นของช่อง ‘MrBeast’ เพราะ เขาได้ทำคลิป ‘Counting to 100,000’ ที่เขาจะนั่งนับตัวเลขไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ 100,000 ซึ่งเป็นวิดีโอที่เขาใช้เวลาถ่ายทำกว่า 40 ชั่วโมง และต้องเร่งคลิปเพื่อให้มีความยาวไม่เกิน 24 ชั่วโมง
ซึ่งในภายหลังช่อง ‘MrBeast’ ก็ได้ขยายคอนเทนต์จากการสตรีมเกมไปยังการทำวิดีโอแจกเงิน หรือแจกของให้กับผู้ติดตามมากขึ้น จนเกิดเป็นช่องย่อยต่างๆ อาทิ Beast Reacts, MrBeast Gaming, MrBeast 2 และ Beast Philanthropy
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2019 จิมมีร่วมก่อตั้ง Team Trees องค์กรระดมทุนให้กับมูลนิธิ Arbor Day และ เขายังได้ก่อตั้ง MrBeast Burger ร้านอาหารเสมือนจริงที่สามารถสั่งซื้อเบอร์เกอร์ผ่านออนไลน์เดลิเวอรี ในปี 2020 ในขณะที่ปี 2021 เขาก็ได้ไปเป็นผู้ร่วมก่อตั้งของ Team Seas องค์กรด้านการระดมทุนแก่มูลนิธิอีกเช่นกัน
และล่าสุด ปี 2022 จิมมีได้ก่อตั้ง Feastables บริษัทขายช็อกโกแลตบาร์ในแบรนด์ของเขาเองที่มีการปล่อย ‘ตั๋วทองคำ’ เป็นจำนวน 10 ใบ ไว้ในช็อกโกแลตบาร์ ที่หากใครค้นพบจะได้ไปโรงงานช็อกโกแลตของเขา ซึ่งได้ออกแบบโรงงานช็อกโกแลตดังเช่นในหนังเรื่อง ‘Chocolate Factory’ เลยทีเดียว
เปิดรายได้ยูทูปเบอร์ดัง
Mr Beast นั้นจริง ๆ ไม่ได้เป็นแค่ Youtuber แต่เขานั้นยังเป็น เจ้าของธุรกิจ อีกหลายอย่าง โดยในช่วงปี 2021ได้มีการเผยตัวเลขว่า เขาสามารถทำรายได้กว่า 54 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.9 พันล้านบาท โดย 32 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 พันล้านบาท) มาจากโฆษณาจากช่องต่างๆ ของเขา และ 9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 315 ล้านบาท) มาจากคอนเทนต์ที่ได้รับการสปอนเซอร์ และจากการคาดการณ์รายได้พบว่า ภายในปี 2022 รายได้ของ ‘MrBeast’ จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแตะ 110 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.9 พันล้านบาท
ไม่เกินความสามารถ Mr Beast ยังเป็น เจ้าของสตูดิโอ แห่งหนึ่งอีกด้วย โดยเขาตั้งใจจะขายเสี้ยวหนึ่งของกิจการเพื่อนำเงินไปลงทุนต่อ ซึ่งหากเขาขาย 10% ของหุ้นสตูดิโอดังกล่าวที่น่าจะมีมูลค่าราว 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.2 พันล้านบาทเลยทีเดียว นั่นก็จะทำให้มูลค่าของทั้งสตูดิโออยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.25 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจิมมียังถือไว้อีก 90% เขาจะเป็นเจ้าของสินทรัพย์มูลค่า 1.35 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.73 หมื่นล้านบาท) ดันเขาขึ้นเป็น ยูทูเบอร์มหาเศรษฐีพันล้าน (ดอลลาร์) คนแรกเป็นที่เรียบร้อย
หรือแม้แต่ตอนนี้ที่จิมมียังไม่ได้ประเมินธุรกิจของสตูดิโอดังกล่าว ทาง Forbes นิตยสารด้านธุรกิจ ก็ได้ประเมินสินทรัพย์ส่วนตัวของจิมมีไว้ที่ 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.75 หมื่นล้านบาท)
เรื่องราวจะเป็นยังไง เขาจะกลายมาเป็น CEO Twitter คนใหม่จิงไหม ต้องรอติดตามกับ The Thaiger
