ข่าวข่าวอาชญากรรม

เทียบให้เห็น ไทม์ไลน์คดีเสี่ยเบนท์ลีย์ กู้ภัย VS ตำรวจ จุดไหนไม่ตรงกัน

ดูให้ชัด ไทม์ไลน์วันเบนท์ลีย์ชนปาเจโรบนทางด่วน ข้อมูล กู้ภัย VS ตำรวจ เหมือนหรือต่างกันหลังคดีอุบัตเหตุรถหรูยังถูกสังคมตั้งข้อสงสัยในหลายจุด

ยังคงเป็นกรณีอุบัติเหตุที่สังคมกำลังตั้งข้อสงสัยและคำถามหนักมากกับคดีของเสี่ยเบนท์ลีย์ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือ เสี่ยจั๊บ ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์หรูเบนท์ลีย์มาด้วยความเร็วจนเกิดอุบัติเหตุไปชนท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ เสียหลักไปชนรถดับเพลิง อปพร.บางรัก จนเกิดความเสียหาย 3 คัน มีผู้บาดเจ็บ 6 คน บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขึ้นจากถนนสุขสวัสดิ์มา 9-10 กิโลเมตร มุ่งหน้าดินแดง เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา

โดยถึงตอนนี้แม้ เสี่ยเจ้าของรถหรูผู้ก่อเหตุจะออกมายืนยันว่าพร้อมชดใช้รับผิดชอบค่าเสียหายตลอดจนดูแลเยียวยาผู้เสียหาย แต่ประเด็นที่สังคมยังคงแคลงใจ คือ ไทม์ไลน์การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดหลังเกิดเหตุการณ์ ที่แม้ผลเลือดของเสี่ยจั๊บจะออกและยืนยันแล้วว่า ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ระดับ 10 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นกฎหมายจึงถือว่าไม่เข้าข่ายเมาแล้วขับ แต่ระยะเวลาการตรวจเลือดเพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ล่าช้านั้น อาจมีผลต่อปริมาณแอลกอฮฮล์ในเลือด ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมยังตั้งคำถาม

นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ระบุว่า มีการศึกษาไว้ว่า ทุกๆ 1 ชั่วโมง แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย เฉลี่ย 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์/ชั่วโมง คือผ่านไปนานเท่าไหร่ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะลดลงเรื่อยๆ เช่น หากมีค่าแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ผ่านไป 4 ชม. แอลกอฮอล์ในเลือดจะถูกขับ ประมาณ 60-80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะเหลือประมาณ 20-40 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

ขณะที่ข้อมูลจาก พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 ระบุ เหตุเบนท์ลีย์ชนปาเจโรนี้เกิดเวลาประมาณ 00.38 น. และตำรวจส่งตัวเจ้าของรถเบนท์ลีย์ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ เวลาประมาณ 01.00-02.00 น.

เสี่ยเบนท์ลีย์

ด้าน นายอานนท์ ศรีสุวรรณากุล เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยหน่วยฐานพระยาตาก บอกว่าหลังเกิดเหตุ ทุกคนยังอยู่ในที่เกิดเหตุ รอเจ้าหน้าที่การทางพิเศษนำรถลากมาลากรถที่เกิดเหตุทั้ง 3 คัน ลงมาจากทางด่วน ขณะที่พวกตนเองก็ช่วยกันทำแผลให้คนเจ็บ จากนั้นลงมาจากทางด่วนประมาณ 01.00 กว่าๆ

ตอนนั้นมีคนเห็นคนขับเบนท์ลีย์ เรียกรถแท็กซี่ เพื่อจะหนี แต่มีอาสาที่เห็นเหตุการณ์ได้ขับรถตามรถแท็กซี่ไปจากนั้นก็พากันไปที่ สน.ทางด่วน 1 ซึ่งตนเองอยู่ที่ สน.ทางด่วนถึงเวลาประมาณ 02.00 น. แล้วต้องกลับก่อนเพราะมีงานช่วงเช้า แต่ตอนนั้นตำรวจยังไม่ได้ส่งตัวคนขับเบนท์ลีย์ ไปตรวจเลือด ภาพข่าว เสี่ยเบนท์ลีย์

ทั้งนี้ มีรายงานว่าการรวบรวมข้อมูลจากกู้ภัยและตำรวจในเหตุการณ์ดังกล่าว ยังมีข้อมูลไทม์ไลน์ที่ไม่ตรงกัน โดยอ้างอิงข้อมูลจาก สำนักข่าว TODAY รวบรวมข้อมูลจากกู้ภัยและตำรวจ วันที่ 12 ม.ค.2566 จะเห็นไทม์ไลน์เปรียบเทียบการระบุเวลาจาก 2 ที่มา ดังนี้

ไทม์ไลน์เบนท์ลีย์ชนปาเจโร กู้ภัย VS ตํารวจ บนทางด่วนถึงจุดตรวจเลือด

8 ม.ค. 2566

  • 00.35 น. – เกิดอุบัติเหตุเบนท์ลีย์ชนปาเจโร่,รถกู้ภัย บนทางด่วน ถ.สุขสวัสดิ์-ดินแดง บาดเจ็บ 8 ราย (ข้อมูลกู้ภัย)
  • 00.38 น. – ตํารวจระบุเวลาเกิดเหตุ (ข้อมูลตํารวจ)
  • 01.40 น. – หลังเกิดเหตุคนขับเบนท์ลีย์ เดินลงจากทางด่วนเรียกแท็กซี่จะหนี แต่กู้ภัยขับรถตามทันและนําตัวไปส่งตํารวจ (ข้อมูลกู้ภัย)
  • 01.40 น. – หลังเกิดเหตุประมาณชั่วโมงเศษๆ ไปถึง สน.ทางด่วน 1 (ข้อมูลตํารวจ)
  • 02.00 – 04.00 น. – คนขับเบนท์ลีย์นั่งเคี้ยวหมากฝรั่ง อยู่ใน สน.ทางด่วน1 อาสากู้ภัยถามตํารวจทําไมไม่ให้เป่าแอลกอฮอล์ตํารวจบอกว่าไม่มีเครื่องเป่า (ข้อมูลกู้ภัย)
  • 04.00 น. – ตํารวจส่งตัวคนขับเบนท์ลีย์ไปตรวจเลือดที่ รพ.ตํารวจ (ข้อมูลกู้ภัย)
  • 01.00 – 02.00 น.– ส่งตัวไปตรวจเลือดที่ รพ.ตํารวจ (ข้อมูลตํารวจ)

หมายเหตุ : แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย เฉลี่ย 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์/ชั่วโมง

  • 04.35 น. – คนขับเบนท์ลีย์ถึง รพ.ตํารวจ มีกู้ภัยตามไปดูด้วย (ข้อมูลกู้ภัย)
  • 04.48 น. – เดินไปถึงหน้าห้องตรวจเลือด (ข้อมูลกู้ภัย)
  • 05.00 น. – ตรวจเลือดวัดปริมาณแอลกอฮอล์ (ข้อมูลกู้ภัย) ส่วนตํารวจยังไม่ระบุเวลาตรวจเลือด

ภาพรถกู้ภัยวันเกิดเหตุ คดีเสี่ยเบนท์ลีย์

ทั้งนี้ วันที่ 11 ม.ค.66 เจ้าหน้าที่ตํารวจได้นําตัวคนขับเบนท์ลีย์ส่งศาลฝากขังข้อหา ขับรถโดยประมาทอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล และทรัพย์สินผู้อื่น, ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและทรัพย์สิน, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ) โดยศาลให้ประกันตัว 1 แสนบาท

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button