ไลฟ์สไตล์

เทรนด์สี 2023 นักออกแบบต้องรู้ แมตช์โทนสียังไงให้งานปัง

รวมเทรนด์สีประจำปี 2566 (Color Trend 2023) สำรวจรหัสสีน่าใช้ สำหรับสายครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ หรือแฟชั่นนิสต์ เจาะกระแสเทรนด์โลก สะท้อนการใช้สีผ่านอารมณ์ที่หลากหลาย

เริ่มต้นปีใหม่ก็ย่อมต้องมีกระแสใหม่ ๆ เกิดขึ้นตามมาด้วย และแน่นอนว่าเทรนด์หรือกระแสที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ ก็คงหนีไม่พ้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดชะตากรรมของแต่ละแบรนด์ได้ดีที่สุดก็คือการออกแบบ ไม่ว่าจะวัสดุ หรือรูปทรง และที่สำคัญที่สุดคือสีที่ใช้ในการออกแบบ

Advertisements

ทั้งนี้แนวคิดเรื่องสีในผลิตภัณฑ์มีขึ้นเพื่อสร้างเรื่องราวให้กับสินค้าของแต่ละแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่โดดเด่นและนำเสนอตัวตนของแบรนด์ผ่านผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนเพียงแวบแรกที่ตาเห็น แต่ว่าในแต่ละปีเทรนด์สีของโลกก็จะเปลี่ยนตามความนิยมของผู้บริโภค โดยมีทั้งการให้กำเนิดเฉดสีใหม่ ๆ และการนำสีฮิตในอดีตวนกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้ง

ดังนั้นใครเป็นสายออกแบบอย่าลืมเช็ก 7 เทรนด์ 2023 ที่รับรองว่ามาแน่ในปีหน้า ไว้สำหรับสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งตกแต่งบ้าน เสื้อผ้าแฟชัน หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยทางศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) ได้สรุปมาให้แล้วว่ามีสีอะไรบ้าง ตามไปดูพร้อมกันเลย

เทรนด์สีประจำปี 2566 (Color Trend 2023)

สำหรับสีที่มาแรงในปีหน้าประกอบด้วย 7 สี ได้แก่ สีเหลืองอ่อน (ELFIN YELLOW) สีเขียวมะนาว (LIME GREEN) สีเขียวอมฟ้า (DEEP LAKE) สีส้มแอปริคอต (GOLDEN APRICOT) สีแดงก่ำ (SCARLET SAGE) สีม่วงเข้ม (PHLOX) และ สีดำเทา (MOONLESS NIGHT) ที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบดีไซน์ ครีเอทีฟ และการตลาด โดยทั้ง 7 เทรนด์สีเหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงอารมณ์ การใช้สีแทนอารมณ์ในคอนเทนต์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละสีจะมีรายละเอียดและความหมายดังต่อไปนี้

เทรนด์สี 2023

1. สีเหลืองอ่อน (ELFIN YELLOW)

สำหรับสีเหลืองอ่อนอย่าง ELFIN YELLOW จะถูกจัดให้เป็นสีพื้นเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นสีที่มอบพลังและความรู้สึกอ่อนโยนและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ แม้จะดูเป็นสีที่เรียบง่ายแต่ก็ให้อารมณ์ที่มุ่งมั่นไปพร้อมกัน ดังนั้นสีโทนนี้จึงเหมาะที่จะนำไปใช้ในงานออกแบบประเภทวัสดุตกแต่งบ้าน ของใช้เบ็ดเตล็ด หรือในทางแฟชั่นอย่างเสื้อผ้า

Advertisements

HEX CODE : #eeea97

สีเหลืองอ่อน (ELFIN YELLOW)

2. สีเขียวมะนาว (LIME GREEN)

เทรนด์สีเขียวมะนาว อย่างสี LIME GREEN เป็นสีที่ช่วยเชื่อมโยงธรรมชาติและดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน กล่าวคือเข้าได้กับผู้คนในทุกเจน เป็นสีที่ทำให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว สนุกสนาน ทำให้ผลงานออกแบบมีชีวิตชีวาและมาพร้อมกับแนวคิดแง่บวกเสมอ ดังนั้นสีดังกล่าวจึงเหมาะกับงานด้ารกราฟิตี้ และงานออกแบบด้านแฟชั่น

HEX CODE : #9fc131

สีเขียวมะนาว (LIME GREEN)

3. สีเขียวอมฟ้า (DEEP LAKE)

แม้จะเป็นสีเขียวเหมือนกัน แต่สำหรับสีเขียวอมฟ้าอย่างสี DEEP LAKE ก็ให้ความรู้สึกกล้าหาญได้มากกว่า แม้จะเชื่อมโยงกับธรรมชาติแต่ก็เป็นธรรมชาติในยุคใหม่ ซึ่งในขณะเดียวกันอารมณ์ของสีเขียวเฉดนี้ก็ให้ความรู้สึกปลอบประโลมและสื่อถึงความหวังได้อีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นสีที่เหมาะกับงานด้านแฟชั่นโดยเฉพาะการออกแบบเสื้อผ้านักกีฬา และงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้าน

HEX CODE : #00666b

สีเขียวอมฟ้า (DEEP LAKE)

4. สีส้มแอปริคอต (GOLDEN APRICOT)

สีส้มแอปริคอต หรือ GOLDEN APRICOT ถูกพบว่าเป็นสีที่ได้รับความนิยมในช่วงยุค 80s มาก่อน ซึ่งเป็นสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ แต่ในขณะเดียวกันก็พาเราหวนคิดถึงอดีตที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้สีนี้ในการออกแบบจะเน้นไปทางอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยเฉพาะเสื้อผ้าเด็ก รวมไปถึงด้านการออกแบบภายในของสิ่งก่อสร้างด้วย

HEX CODE : #dda756

สีส้มแอปริคอต (GOLDEN APRICOT)

5. สีแดงก่ำ (SCARLET SAGE)

สำหรับสีแดงก่ำ SCARLET SAGE นับเป็นเทรนด์สีที่ดูจะโดดเด่นค่อนข้างมากสำหรับปี 2023 นี้ เพราะเป็นเฉดสีที่ช่วยเติมพลังและเพิ่มความหลงใหลให้กับงานออกแบบได้เป็นอย่างดี ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ดูสะดุดตา จึงทำให้สีแดงก่ำเหมาะแก่การใช้งานในแวดวงศิลปะ และการออกแบบอาคารทั้งภายในและภายนอก

HEX CODE : #9d202f

สีแดงก่ำ (SCARLET SAGE)

6. สีม่วงเข้ม (PHLOX)

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีที่โดดเด่นไม่แพ้ใครกับสีม่วงเข้ม PHLOX ที่ถือว่าเป็นสีแห่งโลกยุคใหม่หรือยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยสีนี้จะสื่อถึงความทันสมัย นวัตกรรมของโลกอนาคต และความเป็นเมตาเวิร์ส เป็นสีที่ให้อารมณ์ของนามธรรมมากกว่ารูปธรรม ดังนั้นสีนี้จึงเหมาะกันงานศิลปะทุกแขนงที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเชื่อมโยงตัวตนเข้ากับโลกอนาคต

HEX CODE : #692d5d

สีม่วงเข้ม (PHLOX)

7. สีดำเทา (MOONLESS NIGHT)

สีสุดท้ายสำหรับเทรนด์สี 2023 คือสีดำเทา หรือ MOONLESS NIGHT เป็นสีที่ให้อารมณ์ได้หลากหลาย เป็นได้ทั้งการยกระดับ ความเย้ายวน และปริศนาลึกลับ อีกทั้งยังมีความคลาสสิกร่วมสมัยเข้ากันได้กับทุกยุค นับว่าเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอิสระและถูกกักขังไปพร้อมกัน ดังนั้นสีดำเทาจึงเหมาะการออกแบบที่เน้นรูปธรรม ทั้งในวงการโฆษณา กีฬา และอาหาร

HEX CODE : #2f2d30

สีดำเทา (MOONLESS NIGHT)

และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 เทรนด์สี 2023 ที่นักออกแบบต้องรู้ สำหรับนำไปพัฒนางานออกแบบของตัวเองให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ครั้งนี้เดอะไทยเกอร์จะมีเทรนด์อะไรมาฝากอีกนั้น อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ.

ขอบคุณข้อมูลจาก : 1

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button