สหรัฐฯ เฝ้าระวัง ‘เชื้อลิสทีเรีย’ ระบาด 6 รัฐ ทำหญิงแท้ง-คนดับ
สหรัฐอเมริกาสั่งเฝ้าระวัง เชื้อลิสทีเรีย หลังระบาดไปแล้ว 6 รัฐ และมีผู้เสียชีวิต รวมถึงทำหญิงแท้ง เผยติดมาจากชีสหรือเนื้อตัดเย็น
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน สำนักข่าว CNN รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เร่งตรวจสอบหลังพบเชื้อลิสทีเรีย แพร่ระบาดใน 6 รัฐ และมีผู้ป่วย 16 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และมีแม่แท้งลูกอีกด้วย
ทาง CDC เปิดเผยว่าจากผลห้องปฏิบัติการ พบว่าเชื้อลิสทีเรียนั้นเกี่ยวโยงกับเนื้อตัดเย็น ชีส โดยทางศูนย์ควบคุมป้องกันโรคนั้นเตือนให้ประชาชนโดยเฉพาะคนชรา หญิงท้อง และบุคคลที่มีระบบภูมิต้านทานอ่อนแอ ให้อุ่นเนื้อหรือชีสก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อลิสทีเรีย
ทาง CDC ยังได้แนะนำอีกด้วยว่าประชาชนที่ซื้อชีสหรือเนื้อ ควรจะล้างตู้เย็นด้วยน้ำสบู่ หรือ น้ำร้อนเพื่อเป็นฆ่าเชื้อ และให้รีบติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อแสดงอาการป่วย
สำหรับอาการของเชื้อลิสทีเรีย อาจจะใช้เวลานานถึง 70 วันก่อนจะแสดงอาการ โดยผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสีย และอาการป่วยที่เกี่ยวข้องระบบย่อยอาหาร ตามด้วยปวดหัว ปวดคอ ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ปัจจุบันพบผู้ป่วยในรัฐนิวยอร์ก แมรีแลนด์ อิลินอยส์ แมสซาชูเซตส์ แคลิฟอร์เนีย และ นิวเจอร์ซีย์ โดยผู้ป่วยมีอายุตั้งแต่ 38 ถึง 92 ปี อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยอยู่ที่ 74 ปี ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นผู้ชาย นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย หรือ ยุโรปตะวันออก ซึ่งมีวัฒนะธรรมการกินที่ต่างออกไป
ทั้งนี้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อลิสทีเรียสามารถรักษาได้ ทำให้ทาง CDC เชื่อว่ายอดผู้ป่วยจริงนั้นอาจจะสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากผู้ป่วยบางคนอาจจะป่วยและรับการรักษาหายไปแล้ว