ข่าวข่าวภูมิภาค

ธปท. เลื่อนยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็ม หาวิธีไม่กระทบ ปชช.

ธนาคารแห่งประเทศไทย เลื่อนยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็ม ออกไปก่อนหลังมีกำหนดจะใช้กลางเดือนหน้า เร่งหาวิธีไม่กระทบประชาชน

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการยืนยันตัวตนการฝากเงินผ่านเครื่องรับฝากและถอน หรือ CDM ผ่านบัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิต ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ที่ออกโดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ก่อนหน้านี้ ได้กำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ก่อนที่จะถูกเลื่อนออกไปในเวลาต่อมา

Advertisements

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวถึงประเด็นการยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็มว่า เข้าใจโจทย์ของ ปปง.ที่มีกฎหมายต้องดำเนินการตามและมีเรื่องที่ต้องทำในส่วนของ ปปง.ด้วย โดยเป็นหน้าที่ของ ธปท.จะหารือร่วมกับหน่วยงานภายใต้การกำกับ เช่น สมาคมธนาคารไทย ที่จะหาวิธีที่ตอบโจทย์และจะไม่ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากวิธีการใช้บัตรเครดิต เดบิต และเอทีเอ็ม ซึ่งคิดว่าจะมีแนวทางอื่นๆ ที่สามารถทำได้ โดยระหว่างนี้ที่ ปปง.ได้เลื่อนการใช้บัตรเครดิต เอทีเอ็ม และเดบิตเพื่อการยืนยันออกไปก่อน

เนื่องจากเป็นผู้กำหนดกฎหมาย และ ธปท.จะรับโจทย์มาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้รูปแบบใดในการยืนยันตัวตน อีกทั้งภาระยังไม่เกิดกับประชาชน

วิธีเบื้องต้นที่บอกว่าจะให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งก็เป็นแง่ดีเพราะทุกคนมีบัตรประจำตัวประชาชน ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยง เนื่องจากขั้นตอนการทำธุรกรรมที่ต้องเสียบบัตรประจำตัวประชาชน อาจจะเกิดการลืมบัตร หรือทำบัตรหายได้ หรือหากมองอีกมุมหากต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนในการเสียบบัตรใส่ตู้ธนาคาร CDM ซึ่งส่วนของธนาคารต้องเปลี่ยนระบบที่ตู้ของธนาคารส่งผลให้ต้นทุนธนาคารสูงขึ้น ดังนั้น เรื่องการใช้บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อทำการยืนยันตัวตนยังไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมที่สุดหรือตอบโจทย์ที่สุด เนื่องจากเมื่อต้นทุนธนาคารเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดก็ต้องมีการส่งผ่านต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อมไปสู่ผู้บริโภคหรือประชาชนอยู่ดี

นอกจากนี้ คาดว่าอาจจะมีวิธีอื่นที่เหมาะสมมากกว่า เช่น การใช้แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรืออาจจะเป็นการคีย์เลขบัตรประชาชน หรือการใช้รหัส OTP หรือ One Time Password คือชุดรหัสผ่านใช้ครั้งเดียวที่ระบบของเราสร้างขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต เพื่อการยืนยันตัวตน ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกให้ตอบโจทย์ในวิธีที่เหมาะสมมากกว่า

“สำหรับโซลูชั่นจะเป็นอย่างไร ต้องหาแนวทางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างที่ทราบกันดีว่า ปปง.ได้เลื่อนการปรับใช้ที่ได้กำหนดเดิมว่าจะให้เริ่มเปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ออกไปก่อน เพราะภาระยังไม่เกิดกับประชาชน ขณะเดียวกันระหว่างนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาทางออกถึงแนวทางร่วมกัน ซึ่งที่เล่ามาก็เป็นเรื่องที่เป็นแนวทางเท่านั้น” นายเศรษฐพุฒิกล่าว

Advertisements

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button