ข่าวข่าวการเมือง

‘หมอวาโย’ อัด ‘อนุทิน’ ไม่เลี้ยง ไล่ไปเรียนหมอก่อนออกกัญชาเสรี

หมอวาโย จากพรรคก้าวไกลพูดถึงเรื่องนักเรียนสูบกัญชา อัด อนุทิน ยับ ไล่ให้กลับไปเรียนหมอก่อนค่อยออกนโยบายกัญชาเสรี

นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง หรือ หมอเก่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แสดงความเห็นกรณีนักเรียนสูบกัญชา ที่มีการเผยแพร่คลิปของนักเรียน ม. ต้นจำนวน 5 คน และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักดังที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

หมอวาโย พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นี่เป็นภาพสะท้อนที่เห็นได้อย่างชัดเจนต่อนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ว่าเป็นไปเพื่อการแพทย์หรือสันทนาการกันแน่ ในขณะที่ประชาชนที่ไม่ได้ปิดหูปิดตาได้เห็นว่ากัญชาถูกปลดล็อกเอามาใช้ทำอะไร แต่นายอนุทินกลับยังคงกล่าวอ้างอยู่ตลอดเวลาว่า ที่ทำไปนั้นก็เพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์

อันดับแรกที่ต้องพิจารณา คือ ตอนนี้กัญชามีผลประโยชน์อะไรต่อวงการแพทย์ไทยบ้าง ตนเห็นมีแต่รายงานเคสจากกัญชาเพิ่มขึ้น แพทย์ออกมาบ่นกันรายวัน จนถึงขนาดลงชื่อกันเป็นพันๆ คนต่อต้านนโยบายดังกล่าว ก่อนที่จะอ้างว่าจะเอากัญชามาใช้เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ จะต้องรู้ก่อนกว่าวงการแพทย์เขาต้องการอะไร

เขาขาดแคลนยาหรือวิธีการรักษาอะไร และกัญชาสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้จริงหรือไม่ หรือรักษาโรคอะไรได้บ้าง การจะตอบคำถามนี้ได้ คนตอบควรจะต้องเป็นหมอ และการจะเป็นหมอได้ก็ต้องไปเรียนหมอให้จบ และสอบใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้ผ่านทั้ง 3 ขั้นตอนก่อน

สถานการณ์กัญชาในประเทศไทยตอนนี้ ถือว่ามีความเสรีมากที่สุดในโลก ประชาชนหาซื้อกัญชาได้ง่ายกว่าสุราและบุหรี่ เนื่องจากสุรายังมีช่วงเวลาที่ถูกจำกัดการขาย ส่วนบุหรี่นั้นก็ไม่สามารถวางแสดงผลิตภัณฑ์ได้ ณ จุดจำหน่าย แต่ที่น่าอนาถจิตอนาถใจที่สุด คือ คนขายไม่สามารถโฆษณาเหล้ากับบุหรี่ได้ แต่ประเทศไทยตอนนี้รมว.สาธารณสุข นำกระทรวงฯ ออกมาโปรโมตกัญชา นี่มันหนักกว่าเหล้าและบุหรี่อีก

ถ้าจะขายกัญชากันจริงๆ อย่างน้อยมาตรฐานในการจำหน่ายต้องไม่ต่ำกว่าบุหรี่ และถ้าจะบอกว่าเอาไปใช้ในทางการแพทย์จริงๆ มันก็ไม่ควรต่ำกว่ามาตรฐานของการควบคุมมอร์ฟีนที่ใช้ในทางการแพทย์ เวลานำเข้ามอร์ฟีนก็ต้องผ่านกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลไหนจะซื้อก็ต้องขออนุญาตกระทรวงด้วย จะซื้อเท่าไร จะเก็บไว้ในโรงพยาบาลเท่าไรต้องบอกกระทรวง

กระทรวงต้องรู้และควบคุมได้ทั้งหมด เวลาหมอจะจ่ายยามอร์ฟีนให้คนไข้ หมอต้องเขียนบันทึกและรายงานโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาลเก็บไปรายงานกระทรวงอีกทีด้วยว่า ใช้ไปเท่าไร กับใคร และเหลือคงค้างอยู่เท่าไร อย่างน้อยมันก็ต้องแบบนี้

“ผมอยากฝากไปถึงนายอนุทิน หรือที่เรียกตัวเองว่าหมอหนู และชอบมาให้ข้อมูลกัญชาทางการแพทย์แบบผิดๆ ว่า ถ้าอยากทำตัวเป็นหมอ ให้ไปเรียนแพทย์มาก่อนออกนโยบายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน” นพ.วาโย กล่าว

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button