ผู้ชายผู้หญิงไลฟ์สไตล์

รู้จัก ‘ท่าพับเป็ด’ ท่าถวายตัว กว่าจะเป็นมเหสี ต้องฝึกยิมนาสติกก่อน

พาย้อนอดีตมารู้จักกับ ท่าพับเป็ด ประเภณีโบราณท่ายากก่อน ถวายตัว เป็นพระมเหสีสมัยสมัยอยุธยา กว่าจะโล้สำเภาได้ ต้องฝึกตั้งแต่เด็ก

วันนี้ The Thaiger จะพาทุกคนมาเล่าย้อนประวัติศาสตร์ สมัยอยุธยา ว่าด้วยเรื่องของการ ถวายตัว เข้าเป็นพระมเหสีของกษัตริย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ท่าพับเป็ด ธรรมเนียมโบราณของสาวสยาม ที่ต้องฝึกตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้คำกล่าวที่ว่า “เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก” ไม่เกินจริง

ย้อนอดีต ท่าพับเป็ด ประเพณีโบราณท่า ถวายตัว ต่อกษัตริย์อยุธยา ต้องทำถึงขนาดนักยิมนาสติก

| ท่าพับเป็ด คืออะไร ?

ท่าพับเป็น เกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สืบเนื่องจากกฎมณเฑียรบาลสำหรับหญิงสามัญชน ที่จะเข้ารับการ ถวายตัว เป็นบาทบริจาริกา หรือภรรยาที่เป็นสามัญชนของกษัตริย์ หนึ่งในนั้นคือท่วงท่าที่ต้องได้รับการฝึกตั้งแต่ยังเล็ก เรียกว่า “ท่าพับเป็ด”

สำหรับท่าพับเป็ด มาจากการที่กฎมณเฑียรบาล มีข้อห้ามไม่ให้เท้าของหญิงสามัญชนที่กษัตริย์กำลังทรงร่วมเพศ โดยพระวรกายเป็นอันขาด และเพื่อเป็นการตัดปัญหาจึงออกกฎมาให้หญิงทุกคนนั้นต้องเอาเท้าแนบไว้กับหลังของตนเอง คล้ายกับท่าโยคะ ในปัจจุบันนั่นเอง

แต่ตามกฎการถวายตัว และถวายงานของบาทบริจาริกา ตามกฎมณเฑียรบาล เมื่อท่าแรก​หรือท่าบังคับ อย่างท่าพับเป็ด ตามจารีตผ่านไปแล้ว หลังจากนั้นจะขึ้นอยู่กับ พระราชนิยมส่วนพระองค์ อ้างอิงจากหนังสือของ เผ่าทอง ทองเจอ ปี 2552

สำหรับการถวายตัว ถือเป็นธรรมเนียมโบราณมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คือการนำลูกสาวหรือหลานสาว ทูลเกล้าถวายตัวให้เป็นบาทบริจาริกาของกษัตริย์ เป็นไปเพื่อพยุงฐานะทางเศรษฐกิจสังคม และการเมืองของสมาชิกในตระกูลตนด้วยเช่นกัน จึงทำให้พระราชสำนักฝ่ายในคับคั่งไปด้วยสุภาพสตรีที่คอยปรนนิบัติรับใช้กษัตริย์

นอกจากนี้ บรรดาหญิงสาวต้องผ่านการล้างและอบร่ำอวัยวะช่วงล่างอย่างพิถีพิถัน โดยต้องอาบน้ำ ทาขมิ้น พรมน้ำอบแต่งตัวสวยงาม หลังจากนั้นต้องนั่งบนกระโถนสักพักใหญ่ ซึ่งในกระโถนนั้นจะมีของหอมกลิ่นแรงใส่ไว้ เพื่อรมให้อวัยวะสืบพันธุ์และช่องคลอดนั้นหอม โบราณเรียกการเตรียมตัวนี้ว่า อบเต่า จากนั้นจึงถือว่าพร้อม เพราะหอมทั้งนอกและใน

พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานมีพระแท่นบรรทม​ ลักษณะ 4 เสา โครงหลังคาทำด้วยไม้ฉลุ มีที่พำนัก 3 ด้าน แต่ขึ้นลงได้ด้านเดียว ตามอิทธิพลที่ได้รับมาจากราชสำนักจีน ด้านหน้าพระแท่นบรรทม​ มีเตียงขาคู้ขนาดใหญ่ เรียกว่า “พระแท่นลด” สูงประมาณ 1 ศอก ลดต่ำลงจากพระแท่นบรรทม

ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชาวสยาม​รับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามากขึ้น สังเกตจากหัวเตียงปลายเตียง สามารถขึ้นลงได้ 2 ทาง อิงจากห้องบรรทมในพระที่นั่งอัมพรสถาน และทั้งสองด้าน พบ “พระแท่นลด” นำไปสู่ข้อถกเถียงถึงการถวายตัว ของบาทจาริกาในพระองค์​ อาจมีจำนวนมากกว่า 1 คน

ขอบคุณข้อมูล blockdit

 

baesittichot

นักเขียนสายฮาอารมณ์ดี ไลฟ์สไตล์ เรื่องน่ารู้ทั่วไป ตามติดเทรนด์ฮิตที่ห้ามพลาด อัปเดตข่าวเศรษฐกิจ การเงิน ประสบการณ์งานเขียนมากกว่า 1 ปี ชอบเม้าท์มอย ส่งต่อเรื่องราวน่าสนใจผ่านตัวอักษร ผลงานทุกชิ้นจึงเป็นเหมือน 'เพื่อน' ที่อยากเล่าสิ่ง ๆ ต่างให้คุณได้รู้เป็นคนแรกเสมอ
Back to top button