ข่าวข่าวภูมิภาค

กรมการแพทย์ เผย จำนวนผู้ป่วยโอมิครอน BA5 ราวพันคน ยันไม่ต้องห่วง

กรมการแพทย์ เผย จำนวนผู้ป่วยโอมิครอน BA5 ขณะนี้อยู่ที่ราวๆพันคน ยืนยันอย่าเพิ่งกังวล เร่งพิสูจน์ว่าอาการหนักขึ้นหรือไม่

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ออกมาแถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA5 ว่าขณะนี้แนวโน้มการติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยใหม่กำลังเพิ่มขึ้น คาดว่าโควิดโอมิครอน BA5 จะเข้ามาเบียดสายพันธุ์เก่า และครองสัดส่วนการติดเชื้อในประเทศ

จากการตรวจสอบข้อมูลเมื่อวันที่ 11-17 มิ.ย. พบว่าโอมิครอน BA5 ร้อยละ 6 และในวันที่ 18-24 มิ.ย.65 พบเพิ่มเป็นร้อยละ 44.3 ส่วนสัปดาห์นี้เพิ่มเป็นร้อยละ 51.7 โดยตรวจพบเชื้อในเกือบทุกเขตสุขภาพ พบมากสุดใน กทม. 434 คน

ในส่วนจำนวนผู้ป่วยโอมิครอน BA5 นั้น นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ประมาณ 1,000 คน แต่ตัวเลขไม่ใช่สิ่งที่ต้องเป็นกังวล ต้องดูที่สัดส่วนเพราะคนติดเชื้อโอมิครอนในไทยมีหลายพันคน และเมื่อวิเคราะห์สัดส่วนจะพบว่า BA.4/BA.5 มีประมาณรเแยละ 35-36 ในจำนวนนี้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 44 คน หรือร้อยละ 29.5% คนที่พบตรวจเชื้อจำนวนมาก หรือค่าCt ต่ำ จำนวน 19 คน คิดเป็น 36.8%

ขณะที่ผู้ป่วยอาการรุนแรง พบ 11 คน หรือร้อยละ 36.4 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างยังไม่มากพอ ที่จะสรุปได้ว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ระหว่างนี้ขอให้ รพ.ที่มีคนไข้ปอดอักเสบและต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ มาตรวจสายพันธุ์ให้มากขึ้น

“ตอนนี้อย่าเพิ่งตกใจไปเกินกว่าเหตุ ข้อมูลคนไข้ใน รพ.มากขึ้น อาจเป็นผลมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นทำให้ผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หรืออาจมาจาก BA.4/BA.5 หลบภูมิคุ้มกัน และสามารถติดซ้ำได้ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นเป็นผลมาจากเชื้อกลายพันธุ์” กล่าว

สำหรับมาตรการป้องกันส่วนบุคคลยังมีความจำเป็น รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้ภูมิคุ้มกันสูงมากพอ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะลดต่ำลงจนไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ๆ จึงแนะนำให้รับเข็มกระตุ้นหลังฉีดเข็มสุดท้ายเกินกว่า 4 เดือน

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button