ข่าวข่าวภูมิภาค

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ โต้ ติดโควิดโอมิครอน ดีกว่า เข้ารับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่เป็นความจริง

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่อนจดหมายแถลงโต้ หลังมีชาวเน็ตระบุว่า ติดโควิดโอมิครอน ดีกว่า เข้ารับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ย้ำไม่เป็นความจริง

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ร่อนแถลงโต้ตอบในกรณีที่มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ออกมาโพสต์แสดงความเห็นว่า ติดโควิดโอมิครอนดีกว่า เข้ารับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากมีความปลอดภัย และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามธรรมชาตินั้น ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติออกมาตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง

โดยข้อความระบุว่า “ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการฉีด “วัคซีนโควิด” เข็มกระตุ้น การปล่อยให้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ โอมิครอน มีความปลอดภัย และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามธรรมชาตินั้น สถาบันวัคซีนฯ มีความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับการส่งต่อข้อมูลที่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนดังกล่าวอย่างมาก

สถาบันวัคซีนฯ ขอยืนยันว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในสถานการณ์ที่ไวรัสมีการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วนั้น มีความจำเป็นอย่างมาก โดยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยลดอาการป่วยที่รุนแรง ลดโอกาสการเสียชีวิต และลดโอกาสการเกิดภาวะ Long COVID ในผู้ใหญ่ รวมถึงภาวะอักเสบทั่วร่างกายในเด็ก (Mis-C) จากการป่วยด้วยโควิดได้จริง หลักฐานเชิงประจักษ์ชี้ว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นสามารถลดอาการเหล่านี้ลงได้มากกว่าผู้ป่วยที่ไม่เคยฉีดวัคซีนเลย หรือฉีดวัคซีนแล้วแต่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ การฉีด “วัคซีนโควิด” เข็มกระตุ้น มีการดำเนินอย่างกว้างขวาง ทำให้มีรายงานยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิผล ของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจำนวนมากจากหลายประเทศทั่วโลก องค์การอนามัยโลกได้ออกประกาศสนับสนุนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด เข็มกระตุ้น เพื่อลดอัตราการป่วยหนัก และเสียชีวิตโดยในประเทศไทยได้มีการเก็บข้อมูลเพื่อการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่ใช้ในประเทศด้วยเช่นกัน ผลการศึกษาในปัจจุบัน (ข้อมูลการประเมินประสิทธิผลวัคซีนจากการใช้จริง จ.เชียงใหม่ ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.65 ) ระบุว่า

“ในสถานการณ์การระบาดของโอมิครอน การฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ไม่ป้องกันการติดเชื้อ แต่สามารถป้องกันการเสียชีวิตได้มากกว่า 85% และหากได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ในระยะเวลาที่เหมาะสม สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 34-68% และเพิ่มการป้องกันการเสียชีวิตได้ถึง 98-99% และเมื่อมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 4 เมื่อครบกำหนดการเข้ารับวัคซีน พบว่า สามารถป้องกันการติดเชื้อได้สูงถึง 80-82% โดยยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 ในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 4”

ปัจจุบัน พบว่า ความครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประเทศไทยโดยรวมยังค่อนข้างน้อย เพียง 35% เท่านั้น และจากการเก็บข้อมูลของผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด พบว่า ยังคงเป็นประชากรในกลุ่ม 608 ซึ่งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นค่อนข้างต่ำ

ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชน ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด 19 มาก่อน ไห้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก และเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนดนัดหมาย หากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้วนานกว่า 3 เดือน ให้รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และหากได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 มาแล้ว เป็นเวลา 4 เดือนขึ้นไป ให้รีบเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 4 นอกจากนี้ การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ ยังคงเป็นมาตรการสำคัญ ที่เมื่อปฏิบัติควบคู่กับการฉีดวัคซีนจะช่วยควบคุมการระบาดของโรค ลดโอกาสการกลายพันธุ์ของไวรัส และลดความเสี่ยงของการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโควิด 19 ได้อย่างมีประสิทธิผล

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button