รีวิว The Adam Project หนังไซไฟ Netflix สุดอลังการ เดินทางข้ามเวลาไปอดีต
รีวิว The Adam Project ไม่ สปอยล์ จะทำอย่างไร ถ้าเราย้อนเวลาไปหาตัวเองในอดีตได้ ? วันนี้ The Thaiger จะมาพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์กับ The Adam Project หนังไซไฟ ที่จัดเต็มความอลังการ พร้อมด้วยเรื่องราวสุดมันส์ และมุกตลก ที่ชวนให้ขำจนปอดโยก เป็นยังไง ไปดูกันเลย ?
สนุกเกินคาด รีวิว The Adam Project หนังฟอร์มยักษ์ของ Netflix พร้อมทัพนักแสดงชื่อดัง
The Adam Project หนังไซไฟ ที่มากกว่าแค่ความมันส์
อย่างที่เราได้ถามไปข้างต้น ทุกคนจะทำยังไงกันคะ ถ้าเราย้อนเวลาไปหาตัวเองในอดีตได้ ? โดยในภาพยนตร์เรื่อง The Adam Project นี้ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครหลัก ที่สามารถขับยานพร้อมไทม์แมชชีน ข้ามย้อนไปหาตัวเองในอดีตได้ โดยถือเป็นพล็อตที่เราอาจจะเคยได้เห็นกันมาบ้างแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้นั้นแตกต่างไปจากเรื่องอื่น ก็คือความมันส์จัดเต็มของ CG และการเล่าเรื่องที่ลื่นไหล ฉับไว ไม่ยืดเยื้อ ตลอดจนมุกตลกของเหล่านักแสดงนำ ที่ชวนให้ได้ยิ้มตาม
โดย The Adam Project เป็นเรื่องราวของ อดัม รี้ด ชายหนุ่มผู้เป็นนักบินอวกาศในปี 2050 ที่ต้องการจะย้อนเวลากลับไปในปี 2018 เพื่อช่วยคนรักของตัวเอง แต่ด้วยความผิดพลาด ทำให้เขาได้กลับมายังช่วงเวลาในปี 2022 ในการกลับมานี้เอง อดัม รี้ด ได้ย้อนมาเจอตัวตนของตัวเองในวัย 12 ขวบ เด็กผู้ชายตัวเล็ก ฉลาด ช่างพูด และมักจะโดนแกล้งเป็นประจำ ซึ่งการกลับมาเจอกันในครั้งนี้ อดัมจากโลกอนาคต ได้จับมือพาอดัมตัวจิ๋ว ไปร่วมปฏิบัติภารกิจเปลี่ยนโลก เพื่อช่วยแฟนสาวของตัวเองไปด้วยกัน
นักแสดง The Adam Project มีใครบ้าง
รู้พล็อตเรื่องคร่าว ๆ กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาไปส่องกองทัพนักแสดง ซึ่งงานนี้เขายกเอาดาราชื่อดังหลายคนมาร่วมจอกันอย่างคับคั่ง จะมีใครบ้าง ไปชมพร้อมกันเลย
- ไรอัน เรย์โนลส์
เริ่มต้นคนแรกกันด้วย พระเอกหนุ่ม ตัวละครหลักอย่าง ไรอัน เรย์โนลส์ ที่การันตีความสามารถและมุกตลกหน้าตาย ให้เราได้ขำกันจนท้องแข็ง โดยในเรื่องนี้ เขารับบทเป็น อดัม รี้ด ชายหนุ่มนักขับยานอวกาศ ผู้มาจากโลกอนาคตในปี 2050
- มาร์ค รัฟฟาโล่
อีกหนึ่งนักแสดงดังจาก Marvel ที่มาโผล่ในเรื่องนี้ด้วย ก็คือ มาร์ค รัฟฟาโล่ ของเรานั่นเอง โดยในเรื่องนี้เขารับบทเป็นพ่อของอดัม นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ที่บอกเลยว่า แสดงได้ดีมาก ๆ แถมยังมีคำพูดเด็ด ๆ หลายประโยคให้เราได้คิดตามอีกด้วย
- เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์
นักแสดงอีกคนที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ ผู้ที่เข้ามารับบทแม่ของอดัม โดยในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นมุมมองความเป็นแม่ที่ลึกซึ้ง พร้อมกับอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งตัวละคร ที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้หนังเรื่องนี้ มีความครบรสมากขึ้นกว่าเดิม
- วอล์คเกอร์ สโกเบลล์
ปิดท้ายกันไปด้วย หนูน้อย วอล์คเกอร์ สโกเบลล์ ที่แสดงเป็นอดัม รี้ด ในวัย 12 ขวบ บอกเลยว่านี่เป็นผลงานการแสดงชิ้นแรกของเจ้าตัว แต่กลับทำออกมาได้ดีมาก ๆ แถมยังรับส่งมุกกับนักแสดงหลักได้เป็นมืออาชีพสุด ๆ ที่สำคัญก็คือ ความเก่งของตัวละครนี้ ก็ไม่เป็นสองรองใครเลยด้วยนะ
ตกตะกอน ความรู้สึก หลังดู The Adam Project จบ
ใครจะไปคิดว่า ภาพยนตร์ไซไฟ ที่ใช้เทคโนโลยีในการเล่าเรื่อง จะทำให้เราสามารถตกตะกอนอะไรบางอย่างได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งนี่ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ของหนังเรื่อง The Adam Project เลยก็ว่าได้ เพราะในเรื่องนี้ เขาไม่เพียงแต่จะเล่าในมุมมองความมันส์ และความตลกของนักแสดงนำเท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ของครอบครัวออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของพ่อแม่ต่อลูก หรือระหว่างสามีภรรยาด้วยกันเอง บอกเลยว่ามีฉากให้เราได้นั่งคิดตามกันอยู่ไม่น้อยจริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ในเรื่องนี้ เรายังจะได้คิดไปถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ความสามารถที่มากขึ้นของมนุษย์ พร้อมผลกระทบที่มากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการบอกเล่าเรื่องราวความโลภของผู้คน และการดึงเอาเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างชาญฉลาด แถมภาพในหนังเรื่องนี้ ก็สวยจนต้องอ้าปากค้าง ไม่แปลกที่ใครหลายคนจะถือว่า นี่คือหนังฟอร์มยักษ์ที่ดีที่สุดของ Netflix เรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้
จบกันไปแล้วนะคะ กับการพาไป รีวิว The Adam Project ภาพยนตร์ไซไฟ ที่จะมาเขย่าหัวใจทุกคน งานนี้ใครมีเวลาว่าง ก็ไม่ควรพลาดหนังดี ๆ แบบนี้ รับรองว่าสนุกจนไม่สามารถกดข้ามได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ใครที่ชื่นชอบเรื่องเทคโนโลยี หรือความตื่นเต้น ต้องดูให้ได้เลย ?
เรื่อง : ชนกนันท์ สังข์เอียด
บรรณาธิการ : ทศพล ถิรเจริญสกุล
? ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน The Thaiger