ข่าว

ส่อง! รายละเอียด Test and Go เริ่มลงทะเบียน 1 ก.พ. 2565

มาดูกันในส่วนของรายละเอียดโครงการ Test and Go – แนวทางการตรวจสอบเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ลงทะเบียนร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565

(28 ม.ค. 2565) หลังจากที่มีการประกาศถึงการตัวโครงการ Test and Go – แนวทางการตรวจสอบเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งสำหรับผู้ที่ถือสัญชาติ และชาวต่าวชาติ โดยทาง The Thaiger จะพามาดูกันถึงรายละเอียดของตัวโครงการนี้ให้ได้ทราบกัน

Advertisements

รายละเอียดของโครงการ Test & Go นั้นมีด้วยกันดังนี้

– โครงการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

เงื่อนไขสำหรับผู้เดินทาง

– ประเทศ/พื้นที่ต้นทาง : เดินทางได้จากทุกประเทศ/พื้นที่

– หลักฐานการได้รับวัคซีนโควิด-19

Advertisements
  • หลักฐานการได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ประเทศไทยรับรอง และครบตามเกณฑ์รับรองที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ อย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง
  • หากเป็น ผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว ให้นำ หลักฐานการรับวัคซีน 1 เข็ม หลังติดเชื้อ (พร้อมใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าหายแล้ว)
  • กรณีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ต้องใช้หลักฐานการได้รับวัคซีน แต่ต้องลงทะเบียน และเดินทางพร้อมกับผู้ปกครอง

– บุคคลสัญชาติไทย ไม่ต้องซื้อประกันภัย

  • หากเป็นชาวต่างชาติให้ดำเนินการซื้อประกันสังคมที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลมูลค่าอย่างน้อย $50,000 (ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ภายในประเทศไทยสามารถใช้บัตรประกันสังคม หรือจดหมายยืนยันการพำนักจากนายจ้างได้)

– หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA Extra + / AQ ในวันที่เดินทางมาถึง และวันที่ 5

  • ในวันที่เดินทางมาถึง ต้องมีค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 และพาหนะรับส่งจากสนามบิน
  • วันที่ 5 ต้องมีค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 (จองโรงแรมต่างกันได้)

– เมื่อมีเงื่อนไขตรงกับที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการดำเนินการในโครงการ ที่มีดังต่อไปนี้

1. ทำการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass (ควรลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันเดินทางจริง) – tp.consular.go.th

  • เอกสารสำหรับการลงทะเบียน : หนังสือเดินทาง (Passport) / หลักฐานการได้รับวัคซีนโควิด-19 (สามารถใช้งานเอกสาร EU DCC 2/2 ได้) / หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA Extra + / AQ (พร้อมรายละเอียดข้างต้น)
  • กรณีเป็นผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้ว ให้แนบใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าหายแล้ว และหลักฐานการรับวัคซีน 1 เข็ม แทน

2. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 : โดยต้องมีผลการตรวจเชื้อโดยวิธี RT-PCR เป็นลบ ในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง / ในกรณีมีผลเป็นบวก ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าได้รับการรักษาจนหายแล้ว (ต้องผ่านการติดเชื้อมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน)

  • สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่ต้องมีการตรวจหาเชื้อ แต่ต้องเดินทางพร้อมกับผู้ปกครอง

3. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 1 เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย (วันที่ 1)

  • โดยเข้ารับการตรวจครั้งที่ 1 ณ โรงแรมที่พัก หรือสถานที่อื่นที่มีการกำหนด และรอรับผลตรวจขณะกักตัวอยู่ในห้องพัก
  • หากผลออกมาเป็นลบ สามารถที่จะเดินทางได้ทั่วประเทศ แต่ยังคงต้องเข้ารับการตรวจอีกครั้งในวันที่ 5 หลังเข้าประเทศ

4. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 ระหว่างพำนักในไทย (วันที่ 5)

  • โดยเข้ารับการตรวจครั้งที่ 2 ณ โรงแรมที่พัก หรือสถานที่อื่นที่มีการกำหนด และรอรับผลตรวจขณะกักตัวอยู่ในห้องพัก (โดยสามารถดำเนินในโรงแรมต่างจากโรงแรมของวันที่ 1 ได้)
  • หากผลออกมาเป็นลบ สามารถที่จะเดินทางได้ทั่วประเทศ

 

แหล่งที่มาของข่าว : Twitter – รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล (@Rachadaspoke)

สามารถติดตามข่าวโควิด-19 เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวโควิด-19

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button