การเงิน

Bitkub จ่อถก สรรพากร การเก็บภาษีคริปโต 24 ชม.ความเห็นทะลักกว่า 4 พัน

Bitkub โดย ท็อป จิรายุส จ่อถก สรรพากร การเก็บภาษีคริปโต หลังจากประกาศรวบบรวมความคิดเห็นจากนักลงทุน 24 ชม.ความเห็นทะลักกว่า 4,122 รายการ

กรณีที่ สรรพากร เร่งพิจารณา หลักเกณฑ์การคิดคำนวณภาษีจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ การเก็บภาษีคริปโต ซึ่งถึงตอนนี้ยังคงเต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์และความเห็นที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (10 ม.ค.65) นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งบิทคับ (Bitkub) หนึ่งในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ ด้วยการอัดคลิปวิดีโอแสดงมุมมองรวมถึงยกตัวอย่างข้อเสนอแนะบางส่วน โพสต์ลงในแชนแนลของตัวเอง

ความยาวของคลิปประมาณ 16 นาที นายจิรายุส ผู้ก่อตั้งบิทคับ พบว่า ภายใน 24 ชั่วโมงแรก มีผู้ส่งข้อเสนอแนะเข้ามา 4,122 คอมเมนต์ อาทิ ข้อเสนอแรกมีความเห็นว่าา ประเทศไทยรายได้ต่อหัวน้อยอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ควรใช้ภาษี 15% ขณะที่ส่วนหนึ่งเสนอแนะให้คิดอัตราภาษีแบบขั้นบันไดตลอดทั้งปี

นอกจากนี้นักลงทุนมองว่า นอกจากต้องแบกรับภาระการขาดทุนด้วยตนเองแล้ว ยังต้องแบกรับภาระทางภาษีที่ภาครัฐหักไปเพิ่ม ผลสุดท้ายคนไทยก็จะไม่ลงทุนในดิจิตอลแอสเซตสินทรัพย์นี้

ข้อเสนอต่อมาอื่นๆ ที่แม่ทัพของบิทคับ ยกตัวอย่างก็มีทั้ง เสนอให้ไม่ควรเก็บภาษีซับซ้อน, ยกเลิกการคิดกำไรเป็นรายธุรกรรม, ยกเลิกการเก็บภาษีคริปโทจากนักลงทุน เพื่อส่งเสริมการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ และเป็นการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ซึ่งส่วนนี้อาจสร้างรายได้ให้กับประเทศมากกว่าการเก็บภาษีจากนักลงทุนไทย

นอกจากนี้ ท็อป จิรายุส ยังอธิบายถึงมุมมองเกี่ยวกับ Web 3.0 บริการอินเทอร์เน็ตรุ่นที่ 3 ซึ่งให้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่มีเทคโนโลยีในการทำงานที่ถูกตั้งค่าให้ขับเคลื่อนโดย AI และแอปพลิเคชันแบบ P2P (Peer to Peer) เช่น Blockchain ซึ่งผู้นำบิทคับมองว่า เป็นทิศทางของโลกในอนาคต

รวมถึงการมีนโยบายที่เข้าใจโลกก็จะส่งผลดีต่อ ภาคการเงิน หรือ Financial Sector ซึ่งเป็นเหมือนเส้นเลือดที่ทำหน้าที่หล่อลื่นกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจจริง ซึ่งมีเงินเยอะมาก อีก 10 ข้างหน้าจะเป็นยุคของ nano-entrepreneur หรือิ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ประเทศไหนที่เข้าใจว่าเงินเปลี่ยนไปที่กระเป๋าไหน สอดคล้องกับไดเรคชั่นใดของโลก ก็จะทำให้คนไทยได้ประโยชน์ ถ้าไม่เข้าใจก็จะส่งผลเสียในระยะยาว

ตอนท้าย ท็อป จิรายุส ยังมองว่า สินทรัพย์ดิจิตอล ของไทยจริงๆแล้ว เป็นประเทศแรกๆที่ออกใบอุนญาตดิจิตอลแอสเซท เอ็กเชนจ์ ค่อนข้างนำหน้าในหลายประเทศนับเฉพาะอาเซียน แต่ยังมีกฏหมายบางอย่างไม่สอดคล้อง กับการสนับสนุนวัตตกรมม กฏหมายไม่เอื้อออำนวยในหลายด้าน ในการสร้างโอกาสให้คนไทยสำหรับวงการดิจิตอล ก่อนที่จากนั้นจะทิ้งท้ายว่า คืนนี้ตนเองคงต้องนั่งอ่ายลายระเอียดความคิดเห็นของนักลงทุนที่เจ้าตัวประกาศรวบรวมมาตั้งแต่วันยที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจะนำไปเสนอ สรรพากร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ภาษีคริปโต ท็อป จิรายุส

 

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button