‘หมอมนูญ’ แนะไทยสั่ง ‘แพกซ์โลวิด’ สำหรับรักษาโควิด-19
หมอมนูญ ได้เสนอแนะให้ประเทศไทยสั่งยา แพกซ์โลวิด มาใช้สำหรับรักษาโควิด-19 แทนที่โมนูลพิราเวียร์ หลังพบว่าลดป่วยหนัก-ตายได้แค่ 30%
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2564 – นพ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ (หมอมนูญ) หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ทำการเสนอแนะให้ประเทศไทยเริ่มดำเนินการใช้งานยารักษาโควิด-19 แพกซ์โลวิด มาแทนที่ยาโมนูลพิราเวียร์ หลังพบว่าสามารถทำการลดอัตราการป่วยหนักถึงตายได้แค่ 30% และหน่วยงานในต่างประเทศเริ่มมีการเลิกใช้งานกันแล้ว
โดยข้อความดังกล่าวนั้นได้มีการโพสต์บนเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว และมีเนื้อความดังนี้
ระหว่างยาโมลนูพิราเวียร์ กับแพกซ์โลวิดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ประเทศไทยควรจะเลือกสั่งซื้อและจองยาตัวไหน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ( FDA) เพิ่งจะอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค สำหรับรักษาโรคโควิด-19 ถือเป็นการอนุมัติยาต้านไวรัสแบบเม็ดตัวที่ 2 ก่อนหน้านี้ FDA สหรัฐฯได้อนุมัติการใช้ยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ ยาเม็ดชนิดกินตัวแรกสำหรับรักษาโรคโควิด-19
แพกซ์โลวิด เป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด ประกอบด้วยยาเนอร์มาเทรลเวียร์ (nirmatrelvir) ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส (protease) ซึ่งเชื้อไวรัสต้องใช้ในการเพิ่มจำนวน และยาต้านไวรัสริโทนาเวียร์ (ritonavir) ซึ่งทำให้เนอร์มาเทรลเวียร์ อยู่ในร่างกายได้นานขึ้น
กลไกการรักษาของยาแพกซ์โลวิดแตกต่างกับยาโมลนูพิราเวียร์ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติในรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด เวลาไวรัสก๊อบปี้ตัวเอง จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ จึงทำให้มีจำนวนไวรัสในร่างกายในระดับต่ำและช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
นักวิทยาศาสตร์กังวลว่ายาโมลนูพิราเวียร์อาจทำให้เกิดการผิดพลาด เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ด้วย ถึงแม้ว่าผลการทดลองเบื้องต้นพบว่า ยาโมลนูพิราเวียร์จะมีผลข้างเคียงต่ำ เทียบเท่ากับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ การใช้โมลนูพิราเวียร์ในหญิงตั้งครรภ์มีโอกาสทำให้เกิด teratogenic effect ความพิการในเด็กทารก ดังนั้นในกรณีเป็นผู้ป่วยหญิงวัยเจริญพันธ์ุ ควรตรวจภาวะการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มยานี้ และห้ามให้ในกรณีที่ผู้ป่วยตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์นานๆ อาจก่อให้เชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ เกิดการดื้อยา ติดเชื้อแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น และหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการได้รับวัคซีน
รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่เพิ่งประกาศยกเลิกคำสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ โดยกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่าผลการทดสอบใช้งานกับอาสาสมัครจนครบเฟส 3 ให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ ลดความเสี่ยงจากอาการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลและความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เพียง 30% ต่างกับผลการทดสอบตอนที่ยุติการทดลองกับอาสาสมัครที่ระบุว่ามีประสิทธิภาพ 50%
ยาแพกซ์โลวิดมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ หากได้รับยาภายใน 3 วัน นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ ช่วยลดอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลง 89% หากรับยาภายใน 5 วัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ประสิทธิผลจะอยู่ที่ 85%
ประเทศไทยควรทำตามอย่างประเทศฝรั่งเศส ยกเลิกการสั่งซื้อและจองยาโมลนูพิราเวียร์ สั่งซื้อและจองเฉพาะยาแพกซ์โลวิดเท่านั้น
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
สามารถติดตามข่าวโควิด-19 เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวโควิด-19