มีการรายงานข่าวมาว่า Apple นั้นได้ทำการสลับเปลี่ยนสายการผลิตของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น iPad โดยให้เน้นไปยังการผลิตของ iPhone 13 เป็นหลัก
เมื่อวานนี้ (2 พ.ย. 2564) สำนักข่าว Nikkie Asia ได้ทำการเปิดเผยถึงข่าวที่ว่า Apple นั้นได้ทำการตัดสินใจสละสายการผลิตอุปกรณ์อื่น ๆ บางส่วน ไปให้กับสายการผลิตของสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง iPhone 13 เพื่อจะทำให้มั่นใจได้ว่ายอดขายนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชิ้นส่วนขาดแคลน
แต่ทั้งนี้แล้วยอดความต้องการของ iPads ก็เพิ่มมาด้วยเช่นกัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตอย่างเป็นเอกเทศ และต้องการอุปกรณ์ที่สามารถพกพาไปไหนมาได้อย่างสะดวก โดยมีความต้องการเพิ่มขึ้นมาถึง 6.7% เป็นจำนวนทั้งหมด 53.6 ล้านเครื่อง (1 ใน 3 ของตลาด Tablet ทั่วโลก) แต่ก็ด้วยการคาดการณ์ถึงความต้องการที่สูงกว่าของ iPhone 13 ในพื้นที่เช่นยุโรป และอเมริกา
เนื่องด้วยการที่ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นั้นมีการใช้งานชิ้นส่วนร่วมกัน ซึ่งก็คือชิป A15 Bionic, RAM, และหน่วยเก็บความจำของตัวเครื่อง ทำให้คาดว่าภายในช่วงไตรมาสเดือน ต.ค. – ธ.ค. นั้นรายได้จาก iPad จะลดลง โดย Luca Maestri – CFO ของบริษัทได้กล่าวว่า iPad นั้นจะเป็นเพียงอุปกรณ์เดียวที่จะมีการลดลงของรายได้
บรรดานักวิเคราะห์นั้นต่างก็ไม่ได้ประหลาดใจกับการตัดสินใจของแอปเปิ้ล โดย Brady Wang, นักวิเคราะห์ทางด้านเทคโนโลยีของ Counterpoint Research ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Nikkie Asia ว่า การให้ความสำคัญกับ iPhone เป็นหลักนั้นถือว่าเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติ
Wang ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสภาพแวดล้อมของ Apple นั้นมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สมาร์ทโฟน (Smartphone) ที่ซึ่งทำยอดขายไปได้กว่า 200 ล้านกว่าเครื่องต่อปี รวมไปถึงเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญของแบรนด์ไปแล้ว นอกจากนี้บริษัทเองก็ได้กล่าวนำหน้าเหนือคู่แข่งอื่น ๆ ไปมากแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถจะแลกเนื้อกับส่วนแบ่งการตลาดของแท็บเล็ตได้
แหล่งที่มาของข่าว : GSMArena
สามารถติดตามข่าวเทคโนโลยีเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเทคโนโลยี
- Facebook ประกาศปิดระบบ Automatic Face Recognition
- Google เตรียมเปิดฟังก์ชั่น Lock Folders บน Google Photos สำหรับมือถือปีหน้า
