การเงิน

เหรียญ Shiba Inu พุ่งทะยาน 50% ดันเป็นเหรียญคริปโตแพงอันดับ 11 ของโลก

เป็นอีกหนึ่งครั้งหนึ่งที่ Cryptocurrencies สกุลใหม่ ได้รับความนิยมโดยฉลับพัน โดยเหรียญ Shiba Inu สามารถทำยอดมูลค่าเพิ่มไปถึง 50% จากมูลค่าตั้งต้น

เมื่อวานนี้ (24 ต.ค. 2564) – Shiba Inu (SHIB) สกุลเงินใหม่ล่าสุดในตลาด Cryptocurrencies ได้รับความสนใจ และนิยมจากบรรดานักลงทุนจนสามารถทำยอดมูลค่ารวมของตัวเหรียญไปได้ถึง 50% จากมูลค่าตั้งต้นเมื่อตลาดเปิด และทำให้มันนั้นถือว่าเป็นสกุลเหรียญที่ใหญ่ที่สุดในอันดับที่ 11

Advertisements

ด้วยความนิยมที่มากขึ้นส่งผลให้มีการลงชื่อผ่านทางเว็บไซต์ Change.net เพื่อให้ Robinhood แพลตฟอร์มการลงทุนด้าน Cryptocurrencies ให้นำเอาสกุลเงิน SHIB มาลงบนแพลตฟอร์ม โดยสามารถล่าลายชื่อไปได้ 3 แสนกว่าชื่อ ซึ่งก็ถือว่าเข้าใจได้เนื่องด้วยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามันสามารถทำมูลค่าเพิ่มไปได้จากเริ่มแรกถึง 40 ล้านเปอร์เซนต์

Jonathan Cheesman, หัวหน้าแผนก over-the-counter and institutional sales ของ FTX ได้กล่าวถึงปรากฏการณ์เพิ่มขึ้นของมูลค่า SHIB ว่า “Memes นั้นมีมูลค่า และถือว่าเป็น investible thesis (บทเรียนในการลงทุน) ของปี 2021” “และตัวเหรียญนั้นมีมูลค่าแลกเปลี่ยนที่ต่ำเป็นอย่างยิ่ง” โดยในมูลค่าเงิน 1 ดอลลาร์ (33.33 บาท) นั้นสามารถจะซื้อเหรียญนี้ได้ถึง 2 หมื่น SHIB

นอกจากนี้แล้วนั้น SHIB ยังได้ถูกใช้งานในการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ เช่น NFTs (non-fungible tokens หรือสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ตัวเหรียญโดยตรง) ที่ซึ่งในเวลานี้ได้หมดลงไปแล้ว

Vijay Ayyar, หัวหน้าแผนกภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค ของ Luno Pte. ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงปรากฏการณ์นี้ว่า “เอาเข้าจริงแล้ว ด้วยการที่มันเป็นเหรียญตลก (memecoins) นั้นทำให้เป็นการยากที่จะเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของมูลค่าของเหรียญประเภทนี้” “มันมีชุมชนนักลงทุนที่น่าสนใจสร้างขึ้นมารอบตัวของมัน”

Ben Caselin, หัวหน้าฝ่าย research and strategy ของ AAX ก็ยังได้ทำการกล่าวถึงปรากฏการณ์ว่า “ในเวลานี้ความสนใจได้ถูกเทไปยัง SHIB” “ทำให้ดูเหมือนว่าจะเป็นความท้าทายต่อโครงการคริปโตอื่น ๆ และทำให้เหรียญเหล่านั้นเสียมูลค่าไปอย่างมาก”

Advertisements

SHIB นั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2020 โดยบุคคลที่ใช้ชื่อแฝงว่า Ryoshi ซึ่งได้อธิบายถึงสกุลเงินนี้ไว้ว่า “มันเป็นเหรียญตลกที่ไม่มีการรวมศูนย์ ที่ซึ่งได้มีการวิวัฒนาการเป็นระบบนิเวศที่สดใส”

ตัวเงินนี้นั้นนับว่าเป็นการสานต่อจากความนิยมของ Dogecoin ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2013 และถูกขึ้นทะเบียนในการใช้งานได้เนื่องด้วยความนิยมอย่างกว้างขวาง

 

แหล่งที่มาของข่าว : Bloomberg

สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button