ข่าว

เริ่มแล้ว ฉีดวัคซีนไฟเซอร์นักเรียน พ่อแม่อนุญาตกว่า 4 ล้านคน – ทั่วโลก กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 6 รายต่อ 1 แสนโดส

เริ่มแล้ว ฉีดวัคซีนไฟเซอร์นักเรียน พ่อแม่อนุญาตกว่า 4 ล้านคน – อุบัติการณ์ทั่วโลก กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 6 รายต่อ 1 แสนโดส

4 ต.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการมาถึงของวัคซีนไฟเซอร์ที่ฉีดให้นักเรียน เริ่มวันนี้วันแรก ว่า หลังจากตรวจสอบคุณภาพ เมื่อ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็กระจายไปแต่ละอำเภอ เพื่อฉีดให้กับเด็กนักเรียนที่แจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีน โดยมีนักเรียนระหว่างอายุ 12-18 ปี ที่เข้าเกณฑ์สามารถฉีดได้กว่า 5 ล้านคน มีผู้ปกครองเด็กประมาณ 4 ล้านคนที่อนุญาตให้ฉีด คิดเป็น 80%

ส่วนประเด็นผลข้างเคียงเรื่อง ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ ซึ่งอุบัติการณ์ทั่วโลกอยู่ที่ 6 รายต่อการฉีด 1 แสนโดส พบมากในเด็กชาย ส่วนใหญ่จะหายเองได้ ส่วนน้อยต้องเข้ารักษาใน รพ. แต่หากดูเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าการฉีดวัคซีนมีประโยชน์มากกว่า

ทั้งนี้หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาล เพื่อติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด สำหรับเด็กผู้หญิงข้อมูลส่วนใหญ่เชื่อว่าปลอดภัย คำแนะนำตอนนี้บอกว่าให้ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ส่วนเด็กชายให้ฉีดก่อน 1 เข็ม และประเมินอีก 2 สัปดาห์ว่าจะฉีดเข็ม 2 ต่อหรือไม่ นอกจากนั้นจะรวบรวมจากข้อมูลทั่วโลกมาประเมินด้วย

ด้าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เป็นประธานพิธี Kick off ในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้นักเรียนวันนี้ที่ โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนให้กับเด็ก/เยาวชน ในวันนี้เป็นการส่งเสริมความพร้อมด้านการศึกษาให้เดินหน้าต่ออย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้ปกครองเมื่อต้องส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน โดยเป็นการฉีดวัคซีน Pfizer ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เป็นวัคซีนที่สามารถใช้ในกลุ่มเด็กได้ และรัฐบาลจะเดินหน้าจัดหาวัคซีนชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเดินหน้าการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การเปิดภาคเรียนที่ 2 สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าในปีหน้าจะมีวัคซีนเพียงพอ รัฐบาลเตรียมแผนวัคซีน 150-170 ล้านโดส ให้ฉีดได้ครบถ้วนตามเป้าหมายไว้ และขอฝากให้เด็กนักเรียนได้มีจุดหมายในการเรียนหนังสือว่าจะเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร ขอให้รู้ว่าตนเองชอบสิ่งใด แล้วทำตามความฝัน ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะทุกคนคืออนาคตของชาติ

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button