เทคโนโลยี

เผยโฉม adidas 4DFWD ชูนวัตกรรมการพิมพ์แบบ 3 มิติ

เผยโฉม ‘adidas 4DFWD’ ชูนวัตกรรมการพิมพ์แบบ 3 มิติ เพื่อขับเคลื่อนนักวิ่งพุ่งทะยานสู่เป้าหมายข้างหน้า ยกระดับประสิทธิภาพให้กับนักวิ่ง

  • adidas 4DFWD เกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีของการพิมพ์แบบ 3 มิติ ที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากนักกีฬามาเป็นเวลาหลายปี และเทคโนโลยี Carbon’s Digital Light Synthesis ในการสร้างรูปแบบใหม่ที่ยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานให้กับนักวิ่ง
  • เปิดประสบการณ์การวิ่งรูปแบบใหม่ด้วยโครงตาข่ายรูปหูกระต่ายอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะเป็นแรงส่งไปข้างหน้าในทุกย่างก้าว
  • วางจำหน่ายสีดำ-ส้ม (Core Black และ Solar Red) แบบมีจำนวนจำกัดในวันที่ 15 พฤษภาคม 2564

กรุงเทพฯ, (5 พฤษภาคม 2564) – อาดิดาส รันนิง เปิดตัว adidas 4DFWD (อาดิดาส โฟร์ดีฟอร์เวิร์ด) รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่มีการเก็บข้อมูลของนักกีฬามาเป็นเวลาหลายปี

เพื่อใช้ในการสร้างสรรค์ร่วมกับนวัตกรรมการพิมพ์แบบ 3 มิติแบบเฉพาะตัว ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนนักวิ่งให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า เกิดเป็นประสบการณ์การวิ่งรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา อาดิดาสได้ร่วมมือกับคาร์บอน (Carbon) ในการพัฒนาพื้นรองเท้า 4D ที่มีลักษณะโครงตาข่าย โดยนำเอาข้อมูลที่รวบรวมจากนักกีฬามาผสมผสานกับเทคโนโลยี Carbon’s Digital Light Synthesis ที่ขึ้นรูปพื้นรองเท้าแบบ 3 มิติได้อย่างแม่นยำ

จึงทำให้ adidas 4D ถือเป็นรองเท้าคู่แรกในโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการออกแบบพื้นรองเท้าให้เหมาะกับการเคลื่อนที่ที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ส่งผลให้นักกีฬาสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกย่างก้าว

adidas 4DFWD

adidas 4DFWD ถือเป็นรองเท้าวิ่งที่ผ่านกระบวนการผลิตดังกล่าวจนได้พื้นรองเท้าที่มีลักษณะโครงตาข่าย จากรูปแบบทั้งหมด 5 ล้านรูปแบบ และผลิตขึ้นจากวัสดุทางชีวภาพถึง 39% มี FWD CELL ที่คล้ายกับรูปหูกระต่ายที่ถูก

ออกแบบให้เกิดการบีบอัดไปในทิศทางข้างหน้าเมื่อได้รับแรงกระทบในแนวตั้ง หากเทียบกับพื้นรองเท้า 4D รุ่นก่อนๆ จะพบว่า adidas 4DFWD เป็นรองเท้าที่ส่งแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ดีกว่าถึง 3 เท่า

จากการทดสอบด้วยเครื่องจักรที่ออกแรงกดในแนวตั้ง ผลที่ได้ก็คือ นักกีฬาสามารถลดแรงเบรกโดยเฉลี่ยถึง 15% จากการที่พื้นรองเท้าสามารถเปลี่ยนแรงกดในแนวตั้งเป็นพลังในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า

จึงทำให้เกิดการประหยัดพลังงานในการวิ่งในระดับเดียวกับพื้นรองเท้าของอัลตราบูสท์ในสภาวะการทดสอบภายในห้องทดลอง

adidas 4DFWD

adidas 4DFWD

ทั้งนี้ รองเท้า adidas 4DFWD ได้ผ่านการทดสอบทางชีวกลศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยคาลการี ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แรงเบรก รวมถึงการประหยัดพลังงานในการวิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น หลักการนี้ยังได้มีการทดสอบขยายผลเพิ่มเติมโดยนักวิ่งของอาดิดาสจากทั่วทุกมุมโลกโดยทีมพัฒนาที่เยอรมนี เหล่านักวิ่งระดับสูงในสหรัฐอเมริกา รวมถึงการทดสอบในมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต

adidas 4DFWD

แซม แฮนดี รองประธานฝ่ายออกแบบของอาดิดาส รันนิง กล่าวว่า “เทคโนโลยี 4D ทำให้พวกเราสามารถออกแบบพื้นรองเท้าขึ้นมาใหม่โดยมีคุณสมบัติที่โฟมธรรมดาไม่สามารถทำได้

จากแรงบันดาลใจในพื้น 4D รุ่นแรกที่เป็นพื้นโครงตาข่ายทำให้เราพบความท้าทายในการยกระดับพัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งเราได้ทำการวางรูปแบบโครงสร้างตาข่ายกว่าหลายล้านชิ้น เพื่อให้สามารถจัดการกับแรงกดของเครื่องจักรที่เราพบเจอระหว่างการทดลองวิ่ง

หลังจากที่ทีมผลิตภัณฑ์ของเราได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ Carbon และผู้ทดสอบหลายๆ คน เราได้ค้นพบพื้นรองเท้าที่เป็นโครงสร้างตาข่ายหนึ่ง

รูปแบบที่สามารถทำให้เกิดการบีบอัดไปข้างหน้าและต้านทานต่อแรงกดของเครื่องจักร ซึ่งจะมอบสัมผัสที่แปลกใหม่ให้กับนักวิ่งทุกคน”

สำหรับพื้นรองเท้า adidas4DFWD นั้นจะมีการนำมาประกอบกับตัวรองเท้าที่ทำจากวัสดุไพรม์นิต (PRIMEKNIT) ที่ได้มาจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ซึ่งมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษและช่วยเสริมความกระชับพอดีเท้าแบบไร้รอยต่อ

โดยที่การวางรูปแบบรอยถักของไพรม์นิตนั้นก็จะมีการใช้ข้อมูลในการออกแบบ ซึ่งจะสอดคล้องกับ การวางโครงสร้างพื้นรองเท้าของโฟร์ดีฟอร์เวิร์ดด้วยเช่นกัน จึงทำให้นักวิ่งที่สวมใส่รองเท้าคู่นี้สามารถสัมผัสได้ถึงการซัพพอร์ทที่ดีและความรู้สึกสบายเท้าตลอดการใช้งาน

adidas 4DFWD

  • โครงสร้างตาข่าย: ผลิตจากวัสดุชีวภาพ 39% เพิ่มคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทกที่ดีขึ้น 23% และช่วยส่งเสริมแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ดีกว่าถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับพื้นรองเท้า 4D รุ่นก่อนๆ จากการทดสอบด้วยแรงกดในแนวตั้งจากเครื่องจักร
  • นวัตกรรมพื้นรองเท้า: เทคโนโลยี FWD CELL รูปทรงหูกระต่ายที่ช่วยให้การเปลี่ยนพลังงานที่เกิดขึ้นจากการก้าวเท้าให้เกิดแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า
  • ตัวรองเท้าแบบ PRIMETKNIT+: การนำข้อมูลที่รวบรวมมาใช้ในการขึ้นโครงสร้างของตัวรองเท้าที่ทำจากวัสดุ PRIMETKNIT+ ซึ่งจะมาประสานการทำงานร่วมกับพื้นรองเท้าโฟร์ดีฟอร์เวิร์ดได้อย่างลงตัว จึงทำให้นักวิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความกระชับพอดีเท้าและการระบายอากาศที่ดีในทุกจังหวะที่ก้าวไปข้างหน้า
  • พื้นรองเท้าชั้นนอก: พื้นรองเท้าทำจากยางที่ช่วยเสริมคุณสมบัติการยึดเกาะกับพื้น ซึ่งทำงานร่วมกับพื้นรองเท้าโฟร์ดีฟอร์เวิร์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • น้ำหนัก: 333 กรัม (ขนาด 8.5UK)

อัลเบอร์โต อันซีนี มังกาเนลลี รองประธานอาวุโสของอาดิดาส และผู้จัดการทั่วไปของอาดิดาส รันนิง กล่าวว่า “อาดิดาส มีความตั้งใจที่จะผสมผสานข้อมูลที่ได้จากนักกีฬากับเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับวิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

ซึ่งเราตั้งใจจะใช้วิธีการดังกล่าวในการมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของนักวิ่งแต่ละคนอันนำมาซึ่งความประทับใจในการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ต้องการวิ่งให้เร็วขึ้น ต้องการพิชิตเป้าหมายส่วนตัว ต้องการเพิ่มระยะทางในการวิ่ง หรือต้องการความรู้สึกสบายที่มากขึ้น

ซึ่งเราพยายามมอบสิ่งใหม่ๆ ให้นักวิ่งได้สัมผัสอยู่เสมอ สำหรับนวัตกรรมที่ใช้ในการสร้างพื้นรองเท้าโฟร์ดีฟอร์เวิร์ดที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกนั้นถือเป็นนวัตกรรมการพิพม์พื้นรองเท้าแบบดิจิตอลที่ล้ำสมัยที่สุด

ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีโฟร์ดีในด้านการเปลี่ยนวัสดุที่จับต้องได้และการศึกษาทางชีวกลศาสตร์ให้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งาน พวกเราอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นให้แก่นักวิ่งผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ชิ้นนี้”

adidas 4DFWD

รองเท้าวิ่ง adidas4DFWD จะวางจำหน่ายในจำนวนจำกัดตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ราคา 6,800 บาท ที่ อาดิดาส แบรนด์ เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และ อาดิดาส ออนไลน์ สโตร์ https://www.adidas.co.th

ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2564 อาดิดาส จะวางจำหน่าย adidas4DFWD Tokyo Collection และ adidas4DFWD สีใหม่ ซึ่งสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/adidasTH และอินสตาแกรม @adidasThailand และ @adidasrunning และเว็บไซต์ www.adidas.com/4d และแฮชแท็ก #adidas4DFWD

 


 

Thaiger deals

Vanrasa J.

นักเขียนข่าวสายบันเทิงไทย ฮอลลีวูด เกาหลี และต่างประเทศ อัปเดตคอนเทนต์ข่าวสารเกี่ยวกับดารา หนัง ซีรีส์ เพลง แฟชั่นและความงาม ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านมุมมองความสร้างสรรค์และน่าสนใจ การันตีด้วยประสบการณ์มากกว่า 2 ปี ประเด็นไหนที่ติดเทรนด์จะต้องมีชื่อของ The Thaiger ร่วมตีแผ่เสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button