กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง มาตรการช่วยเหลือ เนื่องในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่ 2 มาตรการ : สินเชื่อ และพักหนี้
ภายในวันนี้ (5 พ.ค. 2564) กระทรวงการคลัง ได้เปิดเผย มาตรการช่วยเหลือ เนื่องในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่ โดยมี 2 แนวทางด้วยกัน ได้แก่ มาตรการสินเชื่อ และมาตรการพักหนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2564 พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) หลายจุดมีการแพร่ระบาดทั้งในแหล่งที่พักอาศัยและในชุมชนอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างและแม้ว่าประเทศไทยจะมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้วแต่สถานการณ์ COVID-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและยังอยู่ในจุดที่ต้องเฝ้าระวัง
ดังนั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการและประชาชนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- มาตรการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชนและบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- ทั้งผู้ที่มีรายได้ประจำผู้ประกอบอาชีพอิสระผู้ประกอบการรายย่อยรวมไปถึงเกษตรกรรายย่อย
- โดยธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ให้สินเชื่อแก่ประชาชนรายละ 10,000 บาท
- ด้วยหลักเกณฑ์ที่ผ่อนปรนกว่าสินเชื่อปกติดอกเบี้ยร้อยละ 0.35 ต่อเดือนเป็นระยะเวลา 3 ปีปลอดชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก
- มาตรการพักชำระหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจขยายระยะเวลาพักชำระหนี้โดยการพักชำระเงินต้นให้แก่ลูกหนี้ตามความสมัครใจออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
- เพื่อลดภาระการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวให้แก่ลูกหนี้หรือนำเงินที่จะต้องชำระหนี้ไปเป็นสภาพคล่องเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือประกอบธุรกิจในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง
- โดยจะต้องไม่เป็นการเพิ่มภาระให้แก่ลูกหนี้มากจนเกินไปและพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่มากไปหาน้อยเพื่อดูแลลูกหนี้ในแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกหนี้เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอความร่วมมือให้ผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆ เช่น Non-bank เป็นต้น เร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เป็นหลัก ทั้งนี้ อาจให้ความสำคัญกับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่มากไปน้อยในลักษณะเช่นเดียวกันกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่อไป
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
- ครม. อนุมัติ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท
- ครม. อนุมัติ คนละครึ่ง เฟส 3 : 3,000 บาท ได้ใช้ภายในสิ้นปี