ข่าว

หมอยง ชวนคนไทยฉีดวัคซีนโควิด เพื่อเปิดประเทศได้เร็วขึ้น

หมอยง ชวนคนไทยฉีดวัคซีนโควิดให้ครอบคลุมบรรลุเป้าหมายในปี 64 สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เปิดประเทศได้เร็ว ย้ำวัคซีนมีประสิทธิภาพ

หมอยง วัคซีนโควิด – วันที่ 5 เมษายน 2564 ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 ว่า การฉีดวัคซีนโควิด 19 ในคนจำนวนมากและครอบคลุมมากเพียงพอ พบว่าลดจำนวนโรคและอัตราการเสียชีวิตลง

เช่น อิสราเอลมีอัตราการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรสูงสุดในโลก เริ่มให้วัคซีนตั้งแต่ธันวาคม 2563 ในบุคลากรทางการแพทย์และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ก่อนขยายไปยังกลุ่มอายุต่างๆ โดยกุมภาพันธ์ 2564 ฉีดตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป เมื่อฉีดครบถ้วนจะได้รับบัตรเขียว สามารถไปผับบาร์ รับประทานอาหารในร้าน ดูหนังได้ ทำให้ผู้ติดเชื้อที่เคยสูงสุด 6 พันรายต่อสัปดาห์ เหลือหลักร้อยรายต่อสัปดาห์ อัตราเสียชีวิตเหลือหลักสิบรายต่อสัปดาห์ แสดงให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนในประชาชนหมู่มากได้ผลชัดเจนโรคสงบลง

ขณะที่อังกฤษรณรงค์ฉีดวัคซีนต่อเนื่องลดอัตราป่วยและเสียชีวิตลงได้ แม้จะมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่ระบาดรวดเร็ว แต่ไม่กระทบกับประสิทธิภาพของวัคซีน แต่ฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่ฉีดวัคซีนไม่ต่อเนื่อง ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนต้องมีมาตรการล็อกดาวน์ อัตราเสียชีวิตยังไม่ลดลง

ส่วนสหรัฐอเมริกาฉีดวัคซีนได้มากเช่นกัน ผู้ติดเชื้อจากแสนรายต่อวันก็เหลือ 5-6 หมื่นรายต่อวัน อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกฉีดวัคซีนได้เพียง 650 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 6.5 ของประชากรโลกที่มี 7 พันล้านคน โดยมีอัตราการฉีดวันละประมาณ 15 ล้านโดส หากจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรโลกภายใน 1 ปีต้องเพิ่มอัตราการฉีดให้ได้วันละ 30 ล้านโดส

ศ.นพ.ยงกล่าวต่อว่า ประเทศไทยจะควบคุมโรคโควิด 19 ได้ การฉีดวัคซีนต้องบรรลุให้ถึงเป้าหมาย จึงขอเชิญชวนประชาชนให้มาฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ถึงเป้าหมายภายในสิ้นปี 2564 เกิดภูมิคุ้มกันหมู่และสามารถเปิดประเทศได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีนโควิด 19 ที่มีการใช้ในโลก มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตสูงมาก เกือบถึง 100 เปอร์เซ็นต์

ส่วนที่คนกังวลเรื่องผลข้างเคียง การฉีดวัคซีนทุกชนิดสามารถเกิดปฏิกิริยาทางร่างกายขึ้นได้ เช่น เจ็บปวดบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือเป็นไข้ ถือเป็นอาการเล็กน้อยหายเองได้ ส่วนกรณีอังกฤษฉัดวัคซีนโควิด 19 ของแอสตร้าเซนเนเก้าไปแล้ว 17 ล้านโดส พบผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตัน 20 คน เสียชีวิต 7 คน คิดเป็น 1 ในแสนถึง 1 ในล้านโดส ถือว่าไม่แตกต่างจากกรณีการเกิดเส้นประสาทอักเสบหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่ต้องรอพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในภาวะฉุกเฉินพิจารณาแล้วว่า การใช้วัคซีนมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่จะได้รับจากวัคซีน

ส่วนการฉีดวัคซีนในเด็ก เนื่องจากวัคซีนทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าใช้ในคนอายุมากกว่า 18 ปี แต่อนาคตเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีก็มีโอกาสได้ใช้วัคซีน เพราะขณะนี้เริ่มมีการวิจัยวัคซีนในเด็กอายุ 12-18 ปี ก็ต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนออกมา แต่เบื้องต้นพบว่ามีประสิทธิภาพดี

ที่มา: Thaigov

Jake KN.

นักคิดนักเขียน พร้อมเสิร์ฟทุกข่าวในสังคม การเมือง อาชญากรรม เทคโนโลยี ต่างประเทศ บันเทิง เศรษฐกิจ โควิด-19 กระแสไวรัลในโลกโซเชียล ทุกเหตุการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button