พิพิธภัณฑ์สวิส บูรณะ รถถัง คิงไทเกอร์ ให้กลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง
พิพิธภัณฑ์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้ดำเนินการบูรณะ รถถัง คิงไทเกอร์ (King Tiger) ให้กลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้งหนึ่ง โดยคาดหวังว่าจะเป็นคันที่ 2 ของโลกที่อยู่ในสถานะขับเคลื่อนได้
อย่างที่ได้กล่าวไปว่า พิพิธภัณฑ์ทหาร Full (Schweizerisches Militärmuseum Full) ที่ตั้งอยู่ที่เมือง Full-Reuenthal ทางตอนเหนือของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้ทำการบูรณะ รถถัง คิงไทเกอร์ (King Tiger) ที่เคยถูกใช้งานโดยกองพันรถถังหนัก 506 ของกองทัพเยอรมันที่อยู่ใต้การปกครองของนาซี ช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเคยผ่านการรบในแนวหน้าฝั่งตะวันตก
โดยมีการคาดหวังว่าเจ้าคิงไทเกอร์คันนี้นั้นจะได้รับการซ่อมแซมจนสามารถกลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็จะทำให้มันเป็นคิงไทเกอร์ คันที่ 2 ที่กลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้งหนึ่ง
รถถังคันนี้นั้นคาดว่าเป็นหนึ่งในยุทโธปกรณ์ที่หลงเหลือมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทางกองทัพฝรั่งเศสนั้นได้ทำการมอบให้แก่กองทัพสวิส เพื่อเป็นการฟื้นฟู และเสริมกำลังกองทัพต่าง ๆ ในยุโรป โดยก็ได้มีการประมาณการณ์ว่ารถถังคันนี้อาจจะเคยผ่านสมรภูมิ ณ เมือง Arnhem (ปฏิบัติการณ์ Market Garden) และการตีโต้กลับที่อาร์แดน (Battle of the Bulge) ในปี 1944 ก็เป็นได้
Bernd Kubicki ผู้นำโครงการบูรณะรถถังคันดังกล่าวได้กล่าวว่า “คิงไทเกอร์คันดังกล่าวนั้น มีสภาพที่ถือว่าแย่เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยมันได้เผชิญกับสภาพอากาศภายนอกเป็นระยะเวลานานนับทศวรรต โดยมันนั้นเต็มไปด้วยน้ำขัง และขึ้นสนิมเขรอะ”
โดยเขาได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ว่า ไทเกอร์ นั้นจะเป็นรถถังที่โด่งดังมากที่สุดในสงครามครั้งนั้น แต่คิงไทเกอร์ถือว่ามีความเหนือกว่า ไม่ว่าจะด้วยเกราะที่หนา และดีกว่า อีกทั้งปืนที่มีขนาดใหญ่กว่าด้วยเช่นกัน แต่มันก็มีน้ำหนักที่มากขึ้นตามไปด้วย” “พวกเราทุกคนอยากที่จะเห็นรถถังไทเกอร์ พวกมันถือว่าเป็นรถถังที่หาได้ยาก ดังนั้นแล้วการที่ได้มันมาครอบครองในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ และได้ทำการบูรณะมันก็เหมือกับการถูกรางวัลจากการเล่นลอตเตอรี่ก็ว่าได้”
ซึ่ง King Tiger คันนี้นั้นถือว่าเป็น 1 ใน 8 คันที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากที่อยู่ในช่วงสงครามทั้งหมด 490 คัน โดยมันมีน้ำหนัก 68 ตัน เกราะที่มีความหนาถึง 18.5 ซม. (7.3 นิ้ว) ใช้งานปืนรถถัง KwK 43 ขนาด 8.8 ซม. และเครื่องยนต์ V-12
ทางพิพิธภัณฑ์ได้กล่าวว่า ผู้ที่ทำการบริจาคให้แก่โครงการนี้ เป็นจำนวนมากในระดับหนึ่งนั้น จะมีโอกาสได้รับการอนุญาตให้นั่งสัมผัสการขับเคลื่อนของรถถังคันนี้ได้ด้วย
แหล่งที่มาของข่าว : Reuter
สามารถติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวต่างประเทศ