คำศัพท์ที่ใช้ในกอล์ฟ โบกี้, เบอร์ดี้, โฮล์ อิน วัน คืออะไร

siraphatเผยแพร่: 18 ก.พ. 2564 16:00 น.| อัปเดต: 18 ก.พ. 2564 16:06 น.

14,257

กอล์ฟ เป็นหนึ่งในกีฬาที่มีมายาวนาน อาจย้อนไปถึงช่วงศตวรรษที่ 15 กันเลยทีเดียว และยังคงเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก นักกอล์ฟชื่อดังหลายคนที่เราอาจคุ้นหูอย่าง ไทเกอร์ วูดส์, รอรี่ แม็คอิลรอย, ฟิล มิกเคลสัน และคนอื่นๆ

Tiger Woods นักกอล์ฟสัญชาติอเมริกัน ลูกครึ่งไทย

กอล์ฟ เป็นกีฬาที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง การเข้าถึงของผู้ที่มีรายได้ระดับกลางๆจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับกีฬาอื่นๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว คนเล่นกอล์ฟส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์สูง ออกไปทางสูงมากพอสมควร และไปจนถึงระดับเศรษฐีกันเลย

Advertisements

“พาร์” คือจำนวนครั้งหรือสโตรกที่กำหนดให้ผู้เล่นสามารถตีได้ในแต่ละหลุม ซึ่งกอล์ฟแต่ละหลุ่มมีความใกล้ไกลที่ต่างกันหลุมที่ไกลอาจต้องตีหลายครั้ง หลุมใกล้อาจตีไม่กี่ครั้ง ดังนั้นการกำหนดพาร์ในแต่ละหลุมจึงต่างกันออกไป ในทุกจำนวนพาร์ที่ถูกกำหนด จะอนุญาตให้ผู้เล่น “พัตต์” ได้ 2 ครั้ง

ตัวอย่างเช่น กลุมที่มีระยะ 150 หลา พาร์ 3 ซึ่งเป็นระยะที่ไม่ไกลมาก ผู้เล่นระดับโปรสามารถตี “ที ช็อต” ให้ลูกตก “กรีน” ได้ในครั้งเดียว จากนั้นก็มีโอกาสพัตต์ได้อีก 2 ครั้ง เพื่อให้ลูกลงหลุม

โดยส่วนใหญ่ในสนามกอล์ฟจะมีหลุมเริ่มต้นที่ พาร์-3, พาร์-4, พาร์-5 สนามกอล์ฟโดยทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีมากสุดแค่หลุม พาร์-5 แต่ก็มีบางสนามที่มีหลุม พาร์-6 แต่น้อยมาก เรียกว่าเป็นของหายากเลยก็ว่าได้

นักกอล์ฟที่เก่งๆหรือโชคดีหลายคนอาจจบหลุมบางหลุมด้วยการตีที่น้อยกว่าจำนวนพาร์ที่กำหนด เรียกว่า “under par” (อันเดอร์ พาร์) หรือบางคนอาจต้องตีมากกว่าจำนวนที่กำหนดเพื่อจบหลุมนั้นๆ เรียกว่า “over par” (โอเวอร์ พาร์) หรือที่เราอาจเคยได้ยินว่า ตีเกิน, ซึ่งเหล่านี้มีคำศัพท์ที่ใช้เรียกแตกต่างกันออกไป เห็นไหมว่าคำศัพท์พวกนั้น เกี่ยวกับพาร์ทั้งนั้น

เบอร์ดี้ (birdie)

เริ่มที่ เบอร์ดี้ นี่ไม่ใช่ชื่อยี่ห้อกาแฟกระป๋องนะ เบอร์ดี้ เท่ากับ 1-under par อย่างเช่น หลุมมพาร์-5 แต่คุณตีลงหลุมแค่ 4 ครั้ง เป็นต้น

อีเกิล (eagle)

อีเกิล เท่ากับตี 2-under par อย่างหลุมพาร์-5 แต่คุณตีแค่ 3 ครั้งลง หรือน้อยกว่านั้นคือตี 2 ครั้งลงหลุมพาร์-5 ก็จะเท่ากับ double eagle คือ 3-under par หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Albatross ซึ่งเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ

โบกี้ (bogey)

โบกี้ คือการตีเกิน 1-over par เช่น หลุมพาร์-4 แต่คุณใช้จำนวนการตี 5 ครั้ง กว่าจะลงหลุม นั่นคือคุณตีเกินไป 1 โบกี้ หากเกินไป 2 ครั้งก็จะเป็น double bokey เกินไป 3 ครั้งก็จะเป็น triple bogey

โฮล์ อิน วัน (hole-in-one)

โฮล์ อิน วัน คือการตีครั้งเดียวแล้วลูกพุ่งลงหลุมเลย หรือเรียกอีกอย่างว่า “ace” หากคุณตีโฮล์ อิน วัน ในหลุมพาร์-5 นั่นเท่ากับคุณได้ 4-under par ซึ่งนักกอล์ฟเขาก็มีคำศัพท์ที่ใช้เรียกเหมือนกันว่า condor

เพื่อความเข้าใจง่ายๆ เดี๋ยวจะแยกให้แบบนี้แล้วกัน

หลุมพาร์-5

Double eagle = 3-under par หมายถึงคุณตี 2 ครั้งลง

Eagle = 2-under par หมายถึงคุณตี 3 ครั้งลง

Birdie = 1-under par หมายถึงคุณตี 4 ครั้งลง

Par = คุณตี 5 ครั้งลง

Bogey = 1-over par หมายถึงคุณตี 6 ครั้งลง

Double bogey = 2-over par หมายถึงคุณตี 7 ครั้งลง

Triple bogey = 3-over par หมายถึงคุณตี 8 ครั้งลง

หลุมพาร์-4

Double eagle = 3-under par หมายถึงคุณตี 1 ครั้งลงหรือ โฮล อิน วัน ซึ่งเกิดขึ้นยากมาก

Eagle = 2-under par หมายถึงคุณตี 2 ครั้งลง

Birdie = 1-under par หมายถึงคุณตี 3 ครั้งลง

Par = คุณตี 4 ครั้งลง

Bogey = 1-over par หมายถึงคุณตี 5 ครั้งลง

Double bogey = 2-over par หมายถึงคุณตี 6 ครั้งลง

Triple bogey = 3-over par หมายถึงคุณตี 7 ครั้งลง

หลุมพาร์-3

Double eagle = ดับเบิล อีเกิล ไม่มีในกลุ่มพาร์-3 (หลุมพาร์-3 ตี 3-under par, 3-3+0 เท่ากับตี 0 ครั้ง)

Eagle = 2-under par หมายถึงคุณตี 1 ครั้งลง = โอล์ อิน วัน

Birdie = 1-under par หมายถึงคุณตี 2 ครั้งลง

Par = คุณตี 3 ครั้งลง

Bogey = 1-over par หมายถึงคุณตี 4 ครั้งลง

Double bogey = 2-over par หมายถึงคุณตี 5 ครั้งลง

Triple bogey = 3-over par หมายถึงคุณตี 6 ครั้งลง

**การตีครั้งเดียวลงไม่ว่าจะทั้งหลุมพาร์-3 หรือ พาร์-4 จะไม่เรียกเป็น eagle หรือ double eagle แต่จะเรียกเป็น โฮล์ อิน วัน ไปเลย เพราะจะไปเรียกทำไมให้มันงง มันท้ายที่สุดมันก็คือโฮล์ อิน วัน, ส่วนในหลุมพาร์-5 การได้ 3-under par หรือเท่ากับตี 2 ครั้งลง ทั่วโลกส่วนใหญ่ชอบใช้คำว่า Albatross มากกว่า แต่ที่อเมริกายังใช้ double eagle อยู่