ครม. เผย! เงื่อนไข ทะเบียนรถชื่อตัวเอง
ครม. ได้ทำการเปิดเผยใน เงื่อนไข ทะเบียนรถชื่อตัวเอง หรือก็คือ ป้ายทะเบียนรถแบบใหม่ ที่เป็นให้มีการใส่ตัวอักษรได้มากกว่า 2 ตัว รวมไปถึงการใส่สระ, วรรณยุกต์ หรือตัวเลขผสมลงไปด้วยได้
ป้ายทะเบียนรถชื่อตัวเอง – ผศ.ดร. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาลได้ทำการเผยแพร่ข่าวที่ว่าด้วย เงื่อนไข ภายใต้หลักการร่างกฎกระทรวงในการออก ทะเบียนรถชื่อตัวเอง หรือป้ายทะเบียนแบบใหม่สำหรับประมูล มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว ผสมสระ วรรณยุกต์ หรือตัวเลขได้
โดย ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนและการแสดงป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ในกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถฯ พ.ศ.2554
โดยกำหนดแผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษ ให้มีตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์หรือตัวเลขได้ สำหรับนำแผ่นป้ายทะเบียนและหมายเลขป้ายทะเบียนดังกล่าวออกเปิดประมูล เพื่อนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน แต่ยังคงประโยชน์ในการควบคุมทางทะเบียนและการตรวจสอบทางกฎหมาย โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- แผ่นป้ายแบ่งออกเป็นสองบรรทัด บรรทัดที่หนึ่ง ประกอบด้วยตัวอักษรประจำหมวดตัวที่หนึ่ง ตัวอักษรประจำหมวดตัวที่สอง และหมายเลขทะเบียนไม่เกินสี่หลัก บรรทัดที่สอง เป็นตัวอักษรแสดงชื่อกรุงเทพฯหรือจังหวัดที่จดทะเบียน เว้นแต่กรณีจดทะเบียนที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ให้ใช้คำว่า เบตง ทั้งนี้ ตัวอักษรให้ใช้ตัวอักษรไทยหมายเลขทะเบียนให้ใช้ตัวเลขอารบิค และทั้งตัวเลขและตัวอักษรให้อัดเป็นรอยดุน
- กำหนดเพิ่มเติมให้แผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน โดยบรรทัดที่หนึ่ง อาจประกอบด้วยตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์หรือตัวเลขก็ได้ และตามด้วยหมายเลขทะเบียนไม่เกินหนึ่งหลัก ทั้งนี้ การกำหนดตัวอักษรมากกว่าสองตัว หรือตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์หรือตัวเลข ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ให้กรมการขนส่งทางบกรับข้อสังเกตของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปดำเนินการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษนี้ให้กับหน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบโดยเฉพาะหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายด้านการจราจร เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมทางหลวง
พร้อมทั้งจัดให้มีการทดลองใช้ป้ายทะเบียนดังกล่าวกับระบบอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ (License Plate Recognition: LPR) และระบบเทคโนโลยีการตรวจสอบอื่นๆ ด้วย โดยลำดับต่อไป จะส่งร่างกฎกระทรวงให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล
สามารถติดตามข่าวทั่วไปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวทั่วไป