‘ปุ้ย TPN’ โต้ ‘ฟ้าใส’ เรียกทำสัญญาหลายครั้งแต่เจ้าตัวไม่ยอมเซ็น
ปุ้ย TPN โต้ ฟ้าใส ขอทำสัญญาแต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ มิหนําซ้ํา! ยังมาขอเปลี่ยนสัญญา
จากกรณีที่ ‘ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น’ Miss Universe Thailand 2019 ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับบริษัท TPN ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand ซึ่งมีการระบุว่า เคยเซ็นสัญญาเมื่อตอนผ่านเข้ารอบ 60 คน แต่หลังจากนั้นทางกองประกวดส่งสัญญาฉบับใหม่มาให้เซ็น ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสัญญาบางส่วน และไม่สามารถตกลงกันได้ ทางกองประกวดจึงขอจบสัญญากับฟ้าใส
โดยในงานเดินสายขอบคุณผู้สนับสนุนการประกวดที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 คุณปุ้ย TPN จึงชี้แจงทุกประเด็น ก่อนจบท้า “อนุญาตให้ฟ้าใสเปิดเผยสัญญาต่อสาธารณะ โดยกองฯ จะไม่เอาผิด และขอพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”
โดยไทม์ไลน์ตามลำดับดังนี้
1. วันที่ 6 มิ.ย. หลังการประกวดเสร็จ ผู้เข้าประกวดทุกคนจะต้องทำข้อตกลงการเข้าประกวด MUT 2019 และคนที่เข้ารอบ 5 คนเท่านั้นที่จะได้ทำข้อสัญญา
2. วันที่ 17 ก.ค. ผู้ได้ตำแหน่งรองทั้งหมดก็เข้าเซ็นสัญญาเรียบร้อย ยกเว้น ฟ้าใส ที่ไม่ได้เข้า
3. เคยแจ้งให้ ฟ้าใส เข้ามาดูสัญญาหลายครั้งแล้ว ทางผู้จัดการส่วนตัวคนเก่าจึงนัดว่าจะเข้ามาดูสัญญา แต่สุดท้าย ฟ้าใส ก็ไม่ได้มา
4. อีกครั้งก็คือนัด ฟ้าใส เข้ามาก่อนที่จะเดินทางไปแอตแลนตา ซึ่งผู้จัดการกองประกวดคนเก่า เอาเอกสารไปให้ แต่ ฟ้าใส ก็ยังไม่สะดวก ตนเองก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเรื่องของสัญญาสะดวกเมื่อไหร่ก็เซ็น ซึ่งหลายคนก็บอกว่า ไม่ยอมรีบจัดการให้เรียบร้อยก่อนเอง อันนี้ตนยอมรับว่าผิดเอง
5. วันที่ 28 คุณแม่ของฟ้าใสก็เดินทางมากองประกวด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กองประกวดก็ได้ไปปรินต์สัญญามาให้คุณแม่ เพราะคุณแม่บอกว่าจะขอดูเอง เพราะน้องอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องของภาษาไทย และคุณแม่ก็ขอแก้ไขในสัญญา ซึ่งตนบอกว่า “ในสัญญาของกองประกวดได้แยกไว้ว่าให้ 30-70 โดย 70 เป็นของนางงาม แต่จะมีสัญญาที่เป็นงานของเมืองนอก 50-50 โดยที่เราจะเคลียร์ให้ทั้งหมด ทั้งส่วนแบ่งของเอเจนซี่ฝ่ายต่างประเทศ” ซึ่งคุณแม่บอกว่า ขอแก้เป็น 70-30 แต่หลังจากที่แก้ไขไปคุณแม่ก็ไม่ได้เซ็น รอให้น้องดูเองเพราะน้องบรรลุนิติภาวะแล้ว
6. วันที่ 27 ก.พ. กองประกวดได้ส่งหนังสือทวงถามให้ ฟ้าใส เข้ามาเซ็นสัญญา
7. วันที่ 4 มี.ค. ฟ้าใส เดินทางมาพร้อมญาติผู้ใหญ่และทนายความ ได้ถือสัญญาดังกล่าวมา 1 ฉบับ เพื่อมาเจรจาด้วย และยื่นข้อเสนอให้บริษัท ซึ่งในสัญญานั้นเขียนมาไม่ครอบคลุมทั้งหมดของข้อกฎหมาย ซึ่งเห็นแล้วก็น่าจะเซ็นกันวันนี้ไม่ได้ เลยส่งตัวร่างสัญญาที่ครอบคลุมทั้งหมดจะได้ไม่มีปัญหาด้านกฎหมายในภายหลัง หลังจากนั้นก็มีการเจรจาและส่งอีเมลตอบรับกัน สุดท้ายก็มีการเซ็นสัญญา โดยทาง ฟ้าใส มีเจตนาที่จะไม่เข้ามาเซ็นสัญญากับทางเรา แต่สุดท้ายก็ ไม่มีการเซ็นสัญญา แต่มีการทำเซ็นข้อตกลงที่ว่า ฟ้าใส มีความประสงค์ที่จะไม่เข้ามาทำสัญญา
8. วันที่ 28 ต.ค. ฟ้าใส ออกมาโพสต์ภาพข้อความผ่านเฟซบุ๊คแจงเรื่องที่เกิดขึ้น “สัญญาฉบับใหม่มีการเปลี่ยนเนื้อหาสัญญาซึ่งไม่ตรงกับฉบับแรก มีการเพิ่มจำนวนปีในการผูกพันสัญญาที่มากขึ้น เพิ่มจำนวนหักเปอร์เซ็นต์ให้กับกองประกวด และในสาระสำคัญอื่น ๆ ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทางกองประกวดได้เรียกเข้าไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งฉบับนี้เงื่อนไขไม่เหมือนกับฉบับแรก และไม่เหมือนกับฉบับที่ 2 เมื่อมีการทักท้วงในเงื่อนไขบางข้อ ทางกองประกวดจึงขอจบสัญญากับฟ้าใส ซึ่งข้อตกลงมิได้เป็นที่เปิดเผย
9. วันที่ 3 พ.ย. ปุ้ยอกมาแจง ประเด็นที่ ฟ้าใส บอกว่า ทางกองได้ยกเลิกข้อสัญญาต่าง ปุ้ย บอกว่า ไม่เคยยกเลิกสัญญา ฟ้าใส เป็นคนเข้ามาเซ็นไม่เข้าร่วมทำสัญญา ถ้ากองจะประกาศออกไปก็ได้เลย แต่เราไม่ทำ และยืนยันว่า คนแก้ไขสัญญาไม่ใช่ TPN ทาง ฟ้าใส ปฏิเสธที่จะเซ็นมาโดยตลอด การที่ ฟ้าใส ออกมาบอกว่า ทาง TPN เป็นฝ่ายจบสัญญา ซึ่งทนายความได้บอกในเรื่องนี้ว่า ทางเราได้มีหลักฐานการเรียกฟ้าใสมาเซ็นสัญญาอยู่แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะเป็นด้านกฎหมาย ถ้าวันนี้น้องอยากจะเอาสัญญามาให้ทุกคนดู เราก็ไม่ว่า ถือเป็นเรื่องยินดี และไม่มีข้อผิดด้วย
ที่มา : ไทยรัฐ
- ฟ้าใส ปวีณสุดา เผยวิธีเรียกพลังใจ หลังเคยท้อก่อนประสบความสำเร็จ
- ฟ้าใส ลงพื้นที่แจกหน้ากากผ้าทำเอง ที่ชุมชนบางกระบือ
- ฟ้าใส เปิดใจ ชีวิตหลังประกวดนางงาม ไม่สนดราม่า แคร์คนที่ควรจะแคร์