สรุปผล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 38 (นัดปิดฤดูกาล) พร้อมไฮไลท์ทุกคู่! – เชลซี แมนยู คว้าตั๋ว UCL
สรุปผล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 38 (นัดปิดฤดูกาล) พร้อมไฮไลท์ทุกคู่! – เชลซี แมนยู คว้าตั๋ว UCL
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 นัดที่ 38 (นัดปิดฤดูกาล)(คลิกที่ผลการแข่งขันเพื่อชมไฮไลท์) |
อาร์เซนอล 3-2 วัตฟอร์ด |
เบิร์นลีย์ 1-2 ไบรท์ตัน |
เชลซี 2-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน |
คริสตัล พาเลซ 1-1 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ |
เอฟเวอร์ตัน 1-3 บอร์นมัธ |
เลสเตอร์ ซิตี้ 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 นอริช ซิตี้ |
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-3 ลิเวอร์พูล |
เซาแธมป์ตัน 3-1 เชฟฯ ยูไนเต็ด |
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 แอสตัน วิลล่า |
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก: ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี
ยูฟ่า ยูโรป้าลีก: เลสเตอร์ ซิตี้ และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
ตกชั้น: นอริช ซิตี้, วัตฟอร์ด และ บอร์นมัธ
สรุปเหตุการณ์น่าสนใจประจำแมตช์เดย์ที่ 38
- “เดอะ กันเนอร์ส” ออกนำ วัตฟอร์ด ที่กำลังหนีตกชั้นห่างถึง 3-0 จากการทำคนเดียวสองประตูของ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ก่อนที่ “แตนอาละวาด” จะไล่มาเป็น 2-3 สุดท้ายตามไม่ทัน เก็บคะแนนจาก อาร์เซนอล ไม่ได้ ทำให้พวกเขาต้องร่วงไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า
- ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ แม้จะออกนำไปก่อน 1-0 จาก แฮร์รี่ เคน ในนาทีที่ 13 แต่ก็มาถูก ชลุปป์ ตีเสมอในช่วงครึ่งหลัง แต่แต้มเดียวที่พวกเขาทำได้ก็เพียงพอจะแซง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ขึ้นไปคว้าตั๋ว ยูฟ่า ยูโรป้าลีก พร้อมจบอันดับที่ 6 ในฤดูกาลนี้
- บอร์นมัธ โชว์ฮึดเก็บ 3 คะแนนจากทีมต่ออย่าง เอฟเวอร์ตัน ได้สำเร็จ แต่ผลอีกคู่หนึ่ง แอสตัน วิลล่า ท็อปฟอร์มต่อเนื่องได้ แจ็ค กรีลิช ยิงประตูออกนำ ก่อนยันเสมอ “ขุนค้อน” 1-1 เก็บ 1 แต้มล้ำค่า ส่งให้พวกเขาถีบทั้ง บอร์นมัธ และ วัตฟอร์ด ร่วงไปเล่นลีกรอง “สิงห์ผงาด” รอดตกชั้นแบบเหลือเชื่อ
- “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฆาตกรรมโหดถลุง นอริช ซิตี้ 5-0 จาก 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ของ เควิน เดอ บรอยน์ ทำให้ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ขึ้นไปทาบสถิติแอสซิสต์สูงสุดในหนึ่งฤดูกาลของ เธียร์รี่ อองรี ตำนานดาวยิงปืนโต ทันที นอกจากนี้ ดาบิด ซิลบา ยังลงสนามเป็นเกมสุดท้ายให้กับ “เดอะ ซิติเซนส์” อีกด้วย
- ด้าน แชมป์พรีเมียร์ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล แม้จะถูกขึ้นนำไปก่อน แต่ก็ได้ทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจค์, ดิว็อค โอริกี้ และ ซาดิโอ มาเน่ รัวแซง 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 99 แต้ม สร้างสถิติคะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
- ส่วนผลการลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์ เพื่อพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นไปตามคาด “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “สิงห์บลูส์” เชลซี เก็บชัยชนะด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งคู่ โดย แมนยู ได้ประตูจากจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นานเดซ และ เจสซี่ ลินการ์ด (อ่านไม่ผิด) ขณะที่ เชลซี ได้ฟรีคิกสุดสวยของ เมสัน เมาท์ และลูกยิงของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ในช่วงท้ายครึ่งแรก ทำให้ทั้งคู่เก็บเพิ่มเป็น 66 แต้มเท่ากัน แต่ ผีแดง ลูกได้เสียดีกว่า คว้าอันดับที่ 3 ไปครอง
MATCH REPORT พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 นัดสุดท้าย
เชลซี พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน
ลุย UCL! ไฮไลท์ เชลซี 2-0 วูล์ฟแฮมป์ตัน : พรีเมียร์ลีก – เมาท์ ฟรีคิก ชิรูด์ ซัดฝัง
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
- เชลซี: (GK) กาบาเยโร่, เจมส์, อัซปิลิกวยต้า, ซูม่า, รูดิเกอร์, อลอนโซ่, จอร์จินโญ่, โควาซิช, เมาท์, พูลิซิช และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์
- วูล์ฟแฮมป์ตัน: (GK) พาทริซิโอ้, โบลี่, โคอาดี้, ซาอิสส์, โดเฮอร์ตี้, จอนนี่, เดนดองค์เกอร์, เนเวส, เนโต้, โชต้า และ ราอูล ฆิเมเนซ
ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกทั้งสองทีมแทบจะไม่มีจังหวะจบสกอร์ “สิงห์บลูส์” ได้แค่ครองบอลไปมาเท่านั้น
นาทีที่ 39 เมสัน เมาท์ หลุดมาทางขวา สบโอกาสโยนด้วยขวาบอลโค้งมาถึงศีรษะของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ได้โหนตัวโหม่งไม่ค่อยถนัด บอลลอยข้ามคานไปแบบน่าเสียดาย โอกาสจะแจ้งมาแต่ เชลซี ยังทำไม่ได้
นาทีที่ 43 เปโดร เนโต้ เติมขึ้นมาเกือบสุดเส้นทางซ้าย พยายามจะครอสเข้ามาลุ้น แต่บอลน้ำหนักเกินเกือบย้อยเข้าประตู โชคดีที่ วิลลี่ กาบาเยโร่ อ่านจังหวะแล้วปัดทิ้งออกมาได้ ทีมเยือน เกือบนำแบบงงๆ
GOAL! นาทีที่ 45+1 เจ้าบ้าน ได้ฟรีคิกบริเวณหน้าหัวกะโหลก เมสัน เมาท์ ยืนอยู่ที่บอล ก่อนวิ่งมาปั่นด้วยเท้าขวาบอลโค้งเสียบเสาแรกสวยงาม สิงโตน้ำเงินคราม ออกนำ หมาป่า สกอร์เป็น 1-0
https://www.facebook.com/ChelseaFC/posts/10158869218982259
GOAL! นาทีที่ 45+4 เชลซี ได้ประตูเบิ้ลก่อนจบครึ่งแรกซะงั้น คราวนี้ คริสเตียน พูลิซิช เล่นเกมสวนกลับ จ่ายต่อให้ เมสัน เมาท์ แทงให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ดาวยิงเฟรนช์แมน แตะหลบ พาทริซิโอ้ ได้สำเร็จก่อนหาจังหวะล้มตัวตวัดบอลเข้าประตูไป สิงห์ ทิ้งห่างเป็น 2-0
รูปเกมครึ่งหลังถือว่าออกมาค่อนข้างน่าเบื่อ หมดเวลา 90 นาที เชลซี เอาชนะ วูล์ฟส์ ด้วยสกอร์ 2-0 เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าอันดับที่ 4 ผ่านเข้าไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
เลสเตอร์ ซิตี้ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
What a man 🥰#MUFC @GulfOilIntl pic.twitter.com/QeuV2kXx5d
— Manchester United (@ManUtd) July 26, 2020
11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
- เลสเตอร์ ซิตี้: (GK) ชไมเคิล, จัสติน, มอร์แกน, อีแวนส์, อัลไบรท์ตัน, เอ็นดิดี้, เชาดูรี่, ตีเลอมองส์, โธมัส, อิเฮียนาโช่ และ เจมี่ วาร์ดี้
- แมนฯ ยูไนเต็ด: (GK) เด เคอา, วาน-บิสซาก้า, ลินเดเลิฟ, แม็คไกวร์, วิลเลียมส์, มาติช, ป็อกบา, กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, แรชฟอร์ด และ อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล
GOAL! นาทีที่ 71 ฮัมซ่า เชาดูรี่ ไปเสียบอลง่ายๆ สุดท้ายเป็น บรูโน่ แฟร์นานเดส แทงให้ อ็องโธนี่ มาร์กซิยาล หลุดมาโล่งๆ คนเดียว กำลังจะได้ง้างแต่ จอห์นนี่ อีแวนส์ พยายามเสียบสกัดจากด้านหลัง ‘พี่หมาก’ ล้มตึงไปกับพื้นสนาม ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที แม้จะมีการเรียกใช้ VAR แต่ก็ยืนยันคำตัดสิน คนสังหารไม่ใช่ใครที่ไหน บรูโน่ ซัดซ้ายมือตัวเองตุงตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0
RED CARD! นาทีที่ 90+4 เจ้าบ้าน ที่กำลังตามหาประตูดันมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน หลัง จอห์นนี่ อีแวนส์ อดีตเด็กเก่า “ปีศาจแดง” เข้าปะทะจังหวะแรกสวยงาม แต่สงสัยอารมณ์กำลังขึ้นเสียบเปิดปุ่มต่อจังหวะที่สองใส่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ล้มกลิ้ง อาจารย์ไม่รอช้าชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป
GOAL! นาทีที่ 90+8 ประตูส้มหล่นปิดท้าย แคสเปอร์ ชไมเคิล พยายามจะไปล็อคบอลหลบ เจสซี่ ลินการ์ด ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม แต่เจอฉกไปได้ ลินการ์ด ได้โอกาสยิงกับประตูโล่งๆ ยังไงก็ไม่พลาด แมนฯ ยู ฝัง 2-0 แถม บีนส์ ทำประตูแรกในฤดูกาลนี้ได้แล้ว…ต้องรอถึงนัดสุดท้าย!
ตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2019-2020
ภาพจาก Twitter @premierleague