สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อ โควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทยส่งผลกระทบไปทั้งประเทศ มีเพียง 11 จังหวัดที่ยังรักษาพื้นที่ไว้ได้ ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด ส่งผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ หรือผ่านพื้นที่
ขณะที่จังหวัดที่พบการแพร่ระบาดต้องล็อกดาวน์ตัวเองห้ามคนเข้าออก เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดเชื้อ การป้องกันโรค การขนส่งสินค้าจำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นกรณีไป และผู้ที่ได้รับยกเว้นจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
ล่าสุด กองบังคับการตำรวจทางหลวงเปิดรายชื่อจังหวัดที่ประกาศห้ามเข้า-ออกในพื้นที่ 11 จังหวัด ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย.63 เวลา 21.00 น. เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ดังนี้
- เชียงราย (วันที่ 9-30 เม.ย.63)
- น่าน (วันที่ 5-30 เม.ย.63)
- ตาก (วันที่ 2-16 เม.ย.63)
- ตราด (วันที่ 4 เม.ย. 63 เป็นต้นไป)
- ภูเก็ต (วันที่ 30 มี.ค.-30 เม.ย.63)
- สงขลา (วันที่ 6-30 เม.ย.63)
- สตูล (วันที่ 3-30 เม.ย.63)
- ปัตตานี (วันที่ 28 มี.ค.63 เป็นต้นไป)
- ยะลา (วันที่ 29 มี.ค.63 เป็นต้นไป)
- นราธิวาส (วันที่ 29 มี.ค.63 เป็นต้นไป)
- บึงกาฬ (วันที่ 7-30 เม.ย.63)
ทั้งนี้มี 11 จังหวัดไม่พบผู้ป่วย โดยไม่มีรายงานรับการรักษา คือ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พังงา, พิจิตร, ระนอง, สตูล, สิงห์บุรี และ อ่างทอง
