ข่าวภูมิภาค

แม่วัย 67 ปีพลั้งมือแทงลูกขี้เมาดับ หลังลูกชายขโมยข้าวเปลือกไปขายซื้อเหล้า

ยายวัย 67 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาใช้มีดหั่นหมากแทงลูกชาย ขณะเข้าไปห้ามไม่ให้ขโมยข้าวเปลือกในยุ้งไปขายซื้อเหล้ากิน แต่ลูกชายไม่ยอมไป รพ.แถมมากินเหล้าต่อจนมานอนเสียชีวิตที่บ้าน ตำรวจพาไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ โดย ส.อบต. ถึงกับร้องไห้เพราะความสงสาร วอนเจ้าหน้าที่เมตตาให้ความเป็นธรรมด้วย

ความคืบหน้ากรณีที่ นางตึ่ง อายุ 67 ปี ชาว ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ตกเป็นผู้ต้องหา ขณะที่เข้าไปห้ามและต่อว่า นายสมศักดิ์ อายุ 46 ปี ลูกชายแท้ๆ ไม่ให้ขโมยข้าวเปลือกในยุ้งไปขายซื้อเหล้าดื่ม แต่ลูกชายไม่พอใจพยายามจะทำร้ายแม่ จึงคว้ามีดจากตะกร้าหมากแทงสวนออกไปบริเวณใต้ราวนมข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

แต่ลูกชายไม่ยอมไปรักษาตัวกลับไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนต่อ แล้วกลับไปนอนเสียชีวิตที่บ้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเย็นของวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา และทางญาติก็ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพของนายสมศักดิ์ ลูกชายที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.พิทักษ์ สิงห์คำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คูเมือง เจ้าของคดี ก็ได้พายายตึ่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุบริเวณถนนหน้ายุ้งข้าว และจุดที่ลูกชายกลับมานอนเสียชีวิตเพื่อประกอบสำนวนคดี ซึ่งถือเป็นคดีอุฉกรรจ์แต่ไม่ต้องใช้กำลังตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเห็นใจยายที่ตกเป็นผู้ต้องหา

โดยขณะทำแผนคุณยาย ก็มีสีหน้าที่ค่อนข้างกังวล ซึ่งก็มีลูกสาวคนโต และเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมารอให้กำลังใจคุณยายด้วย เพราะต่างเห็นใจและสงสารที่ยายต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ และเชื่อว่ายายไม่ได้มีเจตนาจะแทงลูกชายจนเสียชีวิต แต่เป็นการป้องกันตัวที่ลูกชายพยายามจะเข้ามาทำร้ายมากกว่า และหลังเกิดเหตุผู้เป็นแม่ก็พยายามบอกให้ลูกไปหาหมอหลายครั้ง แต่ตัวลูกเองดื้อรั้นไปดื่มเหล้ากับเพื่อนต่อ ไม่ยอมไปหาหมอที่ รพ. แล้วกลับมานอนเสียชีวิตที่บ้านในที่สุด

โดย นายสมัย ชุมไธสง ซึ่งเป็น ส.อบต.ในหมู่บ้านที่มาดูการทำแผนชี้จุดเกิดเหตุด้วย ก็ถึงกับร้องไห้ออกมา พร้อมกล่าวว่า สงสารยายมากที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ที่ผ่านมาลูกชายจะชอบมาขู่บังคับเอาเงินยายไปกินเหล้าประจำ และยายไม่มีเงินให้ก็จะขโมยข้าวเปลือกในยุ้งที่ลูกสาวคนโตแบ่งมาไว้ให้กินไปขาย จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน

และคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการพลั้งมือหรืออุบัติเหตุมากกว่า ก็อยากจะวอนเจ้าหน้าที่ให้ความเมตตาและความเป็นธรรมกับยายด้วย และยืนยันว่าที่ผ่านมายายไม่เคยทำผิดมาก่อน และเป็นคนดี

ขณะที่ ยายตึ่ง ก็ยอมรับว่า รู้สึกกังวลที่จะต้องถูกดำเนินคดีหรือติดคุกตอนแก่ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เจตนาแทงลูกชายเป็นการป้องกันตัวและพลั้งมือเท่านั้น แต่หากศาลตัดสินว่าอย่างไรก็พร้อมจะน้อมรับก็แล้วแต่ศาลท่านจะเมตตา

ยายตึ่ง ยังเล่าให้ฟังว่าวันที่เผาศพลูกชายศพไหม้ไม่หมด ซึ่งคนเฒ่าคนแก่เชื่อว่าน่าจะยังมีห่วงอยู่ ตนจึงไปจุดธูปบอกกล่าวลูกชายว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรและขออโหสิกรรมต่อกัน หลังจากนั้นก็เผาศพได้หมด จึงสามารถเก็บกระดูกไว้ทำบุญ

เบื้องต้น ยายตึ่ง ถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากยายไม่มีพฤติกรรมหลบหนีและรอมอบตัวเองตั้งแต่วันเกิดเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button