การแข่งขันศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ประจำฤดูกาล 2019/20 การพบกันระหว่าง ตราหมี แอต.มาดริด เปิดสนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล
เจ้าบ้าน แอต.มาดริด ของกุนซือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ จัดทัพลงสนามมาในระบบ 4-4-2 อังเคล กอร์เรอา และ อัลบาโร่ โมราต้า จับคู่เป็นกองหน้า แดนกลางมี โตมาส์ เลอมาร์ สร้างสรรค์เกมร่วมกับ โกเก้, โธมัส ปาร์เตย์ และ ซาอูล ญีเกซ
ทางฝั่ง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มาในระบบ 4-3-3 ตามเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เป็น 3 ผสานตัวหลัก แดนกลางมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม
GOAL !!! นาทีที่ 4 เปิดเกมมาไม่ทันไร แอต.มาดริด ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากลูกเตะมุมด้านขวาที่เปิดเข้ามาแล้วบอลขลุกขลิกมาเข้าทางของ ซาอูล นิเกซ ยิงด้วยขวาสวนตัวของ อลิสซอน แบบจ่อ ๆ เข้าไปเลย
เจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 21 ซาอูล ญิเกซ ครอสบอลเลียดไปเสาไกล บอลจะถึง โมราต้า ที่เตรียมจะง้างเท้ายิงอยู่แล้วแต่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะพุ่งมาสไลด์สกัดบอลออกหลังได้ทัน
นาทีที่ 25 ฟาน ไดจ์ค พลาดเลยไปโหม่งบอลเคลียร์มาเข้าทางของ โมราต้า เกี่ยวบอลได้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนล็อคหนี โกเมซ แล้วได้ยิงไปติดบล็อคของ อลิสซอน ไม่ได้ประตู
ถัดมานาทีที่ 26 ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้าประตูจากความผิดพลาดของ โอบลัค ที่เคลียร์บอลไปเข้าทางของ ซาลาห์ ทำชิ่งกับ ฟิร์มิโน่ ก่อนปีกอียิปต์ยิงประตูโล่ง ๆ เข้าไปทว่าฟิร์มิโน่ล้ำหน้าไปก่อนตั้งแต่จังหวะแรกแล้ว
นาทีที่ 36 ทีมเยือนเกือบได้ประตูตีเสมอเป็นมาเน่พยายามลากเข้ากรอบเขตโทษแล้วบอลติดไปเข้าทาง ฟิร์มิโน่ ไหลบอลตั้งมาให้ ซาลาห์ วางเท้ายิงด้วยซ้ายตรงจุดโทษเหน่ง ๆ ทว่าบอลไปแฉลบหัวของ เฟลิเป้ ข้ามคานออกไป ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-0
นาทีที่ 46 ลงมาครึ่งหลังสองกุนซือเปลี่ยนสองนักเตะออกไปโดย แอตเลติโก ถอด เลอมาร์ แล้วส่ง ญอเรนเต้ มาแทน ส่วน มาเน่ ออกให้ ดิว็อค โอริกี้ ลงมาเล่นแทนอย่างไว
ต่อมานาทีที่ 53 ใกล้เคียงทีเดียวสำหรับการขึ้นเกมของ ลิเวอร์พูล คราวนี้ โกเมซ ยกข้ามแนวรับมาได้สวยแล้วเป็น ซาลาห์ โขกยัดไปที่เสาแรกบอลพุ่งตกพื้นก่อนแฉลบออกหลังนิดเดียว
นาทีที่ 67 ตราหมี น่าได้ประตูทิ้งห่างจากจังหวะโยนไปให้โลดี้ทางกราบซ้ายแล้วไหลย้อนตัดหลังมาให้ โมราต้า ที่รออยู่ตรงจุดโทษไม่มีใครประกบทว่าดันยิงไปติดขาตัวเองเสียอย่างนั้น
เข้าสู่นาที 71 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีก คราวนี้ โธมัส ปาร์เตย์ จ่ายบอลออกซ้ายให้ เรนาน โลดี้ วิ่งมากดด้วยซ้าย
นาทีที่ 78 ลิเวอร์พูล มีปัญหาแล้วเมื่อ เฮนเดอร์สัน เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวขอเปลี่ยนตัวออกจากสนามเลย โดยส่งให้เจมส์ มิลเนอร์ ลงสนามมาลุยแดนกลางแทนในช่วงท้ายเกม
ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเจาะแนวรับของ แอต.มาดริด ที่วันนี้เขี้ยวเหลือเกินได้ ทำให้ดูเหมือนต้องกลับไปเจองานยากที่ แอนฟิลด์ เสียแล้ว
หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล เจาะไม่เข้า บุกไปแพ้ให้กับ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด 0-1 ที่ ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่ กุมความได้เปรียบเอาไว้ก่อน นัดที่สองจะกลับมาเล่นที่ แอนฟิลด์ ในวันที่ 11 มีนาคมนี้
ไฮไลท์ แอต.มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล
https://www.youtube.com/watch?v=hZ3CS-ncUmg
สัมภาษณ์ เยอร์เก้น คล็อปป์: “เกมนี้ยังไม่จบ แล้วพบกันที่ แอนฟิลด์ !!!”
ชมเกมย้อนหลัง แอต.มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล
https://www.youtube.com/watch?v=YyWDsAh5KDM
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แอต.มาดริด : ยาน โอบลัค – ซิเม่ เวอร์ซัลโก้, เฟลีเป้, สเตฟาน ซาวิช, เรนาน โลดี้ – โกเก้, โธมัส ปาร์เตย์, ซาอูล ญีเกซ, โตมาส์ เลอมาร์ – อังเคล กอร์เรอา, อัลบาโร่ โมราต้า
ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ภาพจาก: Atlético de Madrid และ ChampionsLeague
