แบดมินตัน

สู้ ๆ นะ ! นักตบลูกขนไก่ไทย บินลัดฟ้าสู่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. นักกีฬา แบดมินตัน ทีมชาติไทย ที่ออกเดินทางไปแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชาย และทีมหญิงชิงแชมป์เอเชีย “เอเชีย ทีม แชมเปี้ยนชิพส์ 2020” ระหว่างวันที่ 11–16 ก.พ. ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 624 ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

แบดมินตัน รายการชิงแชมป์เอเซีย ถูกจัดให้เป็นรายการรอบคัดเลือก ศึกโธมัสคัพ และ อูเบอร์คัพ ที่จะแข่งขันในเดือนพฤษภาคมนี้ ที่ประเทศเดนมารค์ โดยจะคัดเอา ทีมที่เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน โธมัสคัพ และ อูเบอร์คัพ ทันที

ซึ่งผลการจับสลากแบ่งสายการแข่งขันในครั้งนี้ ทีมชายไทยอยู่ในกลุ่ม B ที่มีทั้ง จีน และฮ่องกง ซึ่งถือเป็นงานค่อนข้างหนัก แม้จีนจะไม่ใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เต็มทีม แต่มีดาวรุ่งฝีมือดี ขณะที่ ฮ่องกง นำทีม โดย อึ้ง กา หลง อังกุส แชมป์ชายเดี่ยว ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส คนล่าสุด

ส่วนทีมไทย นำโดย กัน กัณตภณ หวังเจริญ และ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ซึ่งเป็นความหวังใหม่ของวงการ แบดมินตัน ไทย โดยเป้าหมายคือพยายามผ่านเข้ารอบ 8 ทีมให้ได้ก่อน

ส่วนของทีมหญิงไทย ครั้งนี้อยู่กลุ่ม Y ร่วมกับ อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อดูรายชื่อทีมหญิงของอินโดนีเซีย แล้ว เป็นงานหนักไม่น้อย ขณะที่สาวไทย นำโดย ครีม บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ และ กิ๊ฟ จงกลพรรณ กิติธรากุล-วิว รวินดา ประจงใจ

ซึ่งไทยกับอินโดนีเซีย จะเจอกันในนัดแรก และน่าจะเป็นการตัดสินว่าทีมใดจะเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ซึ่งทีมหญิงไทย ต้องพยายามเอาชนะทีมอินโดนีเซีย เพื่อคว้าสิทธ์เป็นทีมวางในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

คุณหญิงปัทมา ยังกล่าวถึงสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรน่า ในฟิลิปปินส์ว่า มั่นใจในการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ ซึ่งเตรียมพร้อมรองรับ และดูแลนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้เพราะมีประสบการณ์ และเพิ่งผ่านการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สำหรับสายการแข่งขันมีดังนี้ ทีมชาย กลุ่ม A อินเดีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ กลุ่ม B จีน, ฮ่องกง, ไทย กลุ่ม C ไต้หวัน, มาเลเซีย, สิงคโปร์ กลุ่ม D เกาหลีใต้, คาซัคสถาน และญี่ปุ่น

ด้านทีมหญิง กลุ่ม W ฮ่องกง, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น กลุ่ม X เกาหลีใต้, อินเดีย, คาซัคสถาน กลุ่ม Y ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และ กลุ่ม Z จีน, ไต้หวัน, สิงคโปร์

ที่มา: badmintonthai

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button