“ช้างศึก U23” ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ต้องกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 อย่างน่าเสียดาย หลังเจอ “จุดโทษปริศนา” ใหยุดความฝันการคว้าตั๋วไปเล่นใน โอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น
“ช้างศึกรุ่นเล็ก” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอดในทัวร์นาเมนต์นี้ และทุกอย่างก็ไปได้สวยในช่วงครึ่งเวลาแรก พวกเขาเล่นเกมรับกันได้อย่างเหนียวแน่น มีเพียงจังหวะผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเสียประตู และดูเหมือนว่าในครึ่งหลังโอกาสสังหารของ ซาอุฯ ก็ดูจะน้อยลงเรื่อยๆ
https://www.facebook.com/thailandsusufanpage/videos/2510713345864661/
แต่แล้วใน นาทีที่ 73 เหตุการณ์ดราม่าก็เกิดขึ้น จากจังหวะที่ สรวิทย์ พานทอง ไปพลาดท่าเสียบอลในพื้นที่อันตราย สุดท้ายเจ้าตัวต้องตามไปดึงเสื้อของ อัล-ฮัมดาน กองหน้าตัวเก่งของ ซาอุดีอาระเบีย ก่อนเข้ากรอบเขตโทษ สุดท้ายเจ้าตัวตามเข้าไปแซะบอลออกจากเท้า ผู้เล่นเบอร์ 9 ได้อย่างขาวสะอาด
ทันทีที่ อัล-ฮัมดาน คว่ำลงไปในกรอบ 18 หลา ผู้ตัดสินเป่านกหวีดแล้วชี้ว่า ทีมชาติไทย ทำฟาล์ว (ผู้บรรยายภาษาอังกฤษทางช่อง FOX Sports นั้นยังไม่ชัวร์ว่า การเป่าครั้งดังกล่าวเป็นการเป่าจุดโทษหรือไม่ เพราะดูแล้วหากเป็นการดึงก็น่าจะเป็นการดึงนอกกรอบเขตโทษ และหากเป็นจังหวะเตะของ สรวิทย์ ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะดูแล้วปกติดี ไม่ได้เป็นการสกัดแบบผิดกติกาแต่อย่างใด)
หลังจากที่ อาเหม็ด อาบู บาการ์ อัล-คาฟ ผู้ตัดสินชาวโอมาน สั่งเคลียร์พื้นที่ เจ้าตัวก็เดินไปฉีดสเปรย์วางแนวให้ “ช้างศึก” ตั้งกำแพง นั่นหมายความว่า จังหวะนี้เป็นฟรีคิกตามความคิดของ ผู้ตัดสินที่ 1
จู่ๆ อัล-คาฟ ก็วิ่งไปที่ข้างสนาม (ผู้บรรยายคิดว่า กรรมการจะไปตรวจสอบจังหวะจุดโทษด้วยตัวเองอีกครั้งในจอ VAR เพื่อความแน่นอน) แต่ปรากฏว่า กรรมการรายนี้ดันวิ่งไปเพื่อตักเตือน อากิระ นิชิโนะ กุนซือ“ช้างศึก” *ไม่ได้มีการเช็คจังหวะจุดโทษด้วยสองตาของตัวเองแต่อย่างใด*
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกับ นิชิโนะ ข้างสนาม อัล-คาฟ วิ่งกลับมาในขณะที่หูยังฟัง VAR (ผู้บรรยายถึงกับเอ่ยว่า จังหวะดังกล่าว “เบามาก” คงเป็นแค่ฟรีคิก) ในขณะที่ “ช้างศึก U23” ตั้งกำแพงกันเรียบร้อยแล้ว
ผู้ตัดสินเดินมาเรื่อยๆ และหยุดอยู่ที่ลูกบอล มือข้างขวาก็จับหูฟัง VAR (นำมาโดย คริส บีธ ผู้ตัดสินชาวออสเตรเลีย) และแล้วจังหวะนรกก็เกิดขึ้น อัล-คาฟ ทำท่าเช็ค VAR พร้อมกับชี้นิ้วไปที่จุดโทษทันที! (ผู้บรรยายภาษาอังกฤษถึงกับหลุดขำออกมา พร้อมกับอุทานว่าแบบสุดงงงวยว่า
What! It’s A PENALTY !? After a VAR checked !? Christopher Beath in a VAR Booth has given a PENALTY kick !?
อะไรเนี่ย! เป็นจุดโทษหรอ!? หลังจากเช็ค VAR แล้วเนี่ยนะ!? คริสโตเฟอร์ บีธ ซึ่งทำหน้าที่อยู่ในห้อง VAR มอบจุดโทษให้กับ ซาอุฯ !?
หลังจากผู้ตัดสินแจกโชคให้กับ ซาอุดีอาระเบีย (พร้อมกับเสียงแจกฟักแฟงแตงโมของแฟนบอล ทีมชาติไทย ทั้งสนาม) อัล-ฮัมดาน ลุกมาสังหารด้วยตนเองเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับเป็นประตูชัยพา ซาอุดีอาระเบีย เข้ารอบต่อไปในศึก ชิงแชมป์เอเชีย U23 2020 ในท้ายที่สุด
ว่ากันตามกฎจริงๆ…
If a defender starts holding an attack outside the penalty area and continues holding inside the penalty area, the referee must award a penalty kick.
หากผู้เล่นที่เป็นฝ่ายตั้งรับ เริ่มเหนี่ยว/ดึง ผู้เล่นฝ่ายรุก ตั้งแต่นอกกรอบเขตโทษ จนถึงกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน “ต้อง” ให้จุดโทษ
จังหวะเริ่มดึงเสื้ออยู่นอกกรอบเขตโทษ
ปล่อยเสื้อ “หลัง” อัล-ฮัมดาน เข้ากรอบ “ไปแล้ว” ประมาณ 1 ก้าว
สรวิทย์ เข้าสกัดอย่าง “ขาวสะอาด”
อันที่จริง จังหวะให้จุดโทษแบบนี้ เราแทบจะเห็นได้น้อยมาก-ไม่เห็นเลยในวงการฟุตบอลระดับนานาชาติ เหมือนกับที่ผู้บรรยายบอกเพราะเป็นจังหวะที่ค่อนข้าง “Soft” หรือ “เบา” มากๆ
สรวิทย์ ดึงจริง ดึงเข้าไปถึงเขตโทษแล้วค่อยปล่อย จริง แต่ อัล-ฮัมดาน ก็แทบไม่ได้เสียการทรงตัวแต่อย่างใด แถมยังลุยต่อไปได้อีกจังหวะหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะถูก สรวิทย์ สกัดบอลอย่างแม่นยำ
จุดโทษลูกนี้มีลับลมคมในหรือไม่ ไม่มีใครรู้ – จุดโทษลูกนี้น่าเกลียดเกินไปไหม อาจจะแล้วแต่มุมมองของแฟนบอล แต่หนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างมั่นใจว่า “ไม่ยุติธรรม” กับ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และแฟนบอล “ช้างศึก” ทั่วประเทศ
อาเหม็ด อัล-คาฟ ไม่ยอมแจกใบเหลืองให้กับผู้เล่นซาอุฯ ในจังหวะที่ควรแจกแบบ 100%…
ภาพจาก ช้างศึก และ FOX Sports
https://www.facebook.com/jingjungfootball/photos/a.1763433500538559/2428855170663052/?type=3&theater
