การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 12 ประจำฤดูกาล 2019/20 สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้ แมตซ์
เจ้าบ้าน เชลซี ของกุนซือ แฟรงก์ แลมพาร์ด เกมนี้จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 แทมมี่ อบราฮัม ออกสตาร์ทเป็นหน้าเป้าตามเดิม วิลเลี่ยน, เมสัน เมานท์ และ คริสเตียน พูลิซิซ สนับสนุนอยู่ด้านหลังไม่ห่าง การออกสตาร์ทเกมนี้ของ เชลซี อายุเฉลี่ยของนักเตะอยู่ที่ 24 ปี 88 วัน เท่านั้น
ทางฝั่ง พาเลซ ของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน จัดทัพมาในระบบ 4-5-1 จอร์แดน อาร์ยิว เป็นหน้าเป้า แดนกลางมี ลูก้า มิลิโวเจวิช เป็นแกนหลัก
Here's the Chelsea team to play Crystal Palace!
Welcome back, @nglkante! 👊#CHECRY pic.twitter.com/gH3cpgTz0E
— Chelsea FC (@ChelseaFC) November 9, 2019
เริ่มเกมมาในนาทีที่ 11 เชลซี ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะตัดบอลได้กลางสนามของ วิลเลี่ยน แล้วพาลุยขึ้นไปเองเลือกแทงทะลุช่องออกซ้ายให้ พูลิซิซ หลุดเข้าในเขตโทษล็อคหลบหนึ่งจังหวะแล้วพยายามจะยกบอลข้ามตัว กวยต้า นายทวาร พาเลซ แต่ไม่พ้นติดเซฟอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 13 เชลซี ได้ลุ้นจังหวะฟรีคิกของ วิลเลี่ยน น้ำหนักดีมากแต่ทิศทางไม่เป็นใจหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 27 เชลซี มาได้ฟรีคิกระยะหวังผล เมสัน เมานท์ รับหน้าที่ยิงเอง และยิงไปติดกำแพงอย่างน่าเสียดาย
ก่อนจบครึ่งแรกนาที 45 เชลซี ได้ลุ้นจากจังหวะ เมสัน เมานท์ ไหลออกขวาให้ เจมส์ เปิดเรียดเข้ามา อบราฮัม ชาร์จไม่โดนบอลเลยไปถึง วิลเลี่ยน หวดเต็ม ๆ ข้อแต่ติดบล็อกแนวรับ พาเลซ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดายและเป็นแอ็คชั่นสุดท้ายในครึ่งแรกจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
Several chances for the Blues, but it's goalless at half-time… #CHECRY
— Chelsea FC (@ChelseaFC) November 9, 2019
GOAL !!! นาที 54 เชลซี ออกนำจนได้ขากขังหวะ โควาซิซ จ่ายยัดให้ วิลเลี่ยน แล้วเบิ้ลต่อไปให้ แทมมี่ อบราฮัม หลุดเดี่ยวแปผ่านมือ กวยต้า เข้าไป
นาทีที่ 58 เชลซี เกือบออกนำห่างจากจังหวะ พูลิซิซ ล็อคหนีแนวรับ พาเลซ ก่อนมีช่องได้หวดนอกกรอบเขตโทษเต็มแรงแต่ กวยต้า ปัดทิ้งไว้ได้
นาที 69 คริสตัล พาเลซ มีโอกาสลุ้นประตูที่ใกล้เคียงที่สุดในเกมนี้จากจังหวะลูกตั้งเตะบอลเลยมาถึง เจมส์ ธอมป์กิ้นส์ ตั้งคอโขกโล่ง ๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
GOAL !!! นาที 78 เชลซีออกนำห่าง 2-0 จากจังหวะ มิชี่ บาตชัวยี่ ยิงไปติดบล็อกแฉลบลอยไปเข้าทาง คริสเตียน พูลิซิซ โถมตัวมาโขกโล่ง ๆ เข้าไป
นาที 87 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ที่ลงมาเป็นตัวสำรองมีโอกาสได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษพยายามปั่นแต่บอลโค้งไม่พอหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 90 เชลซี บุกต่อเนื่องจะเอาประตูที่ 3 และมาได้ลุ้นจากจังหวะ ก็องเต้ ยกบอลเข้าไปในเขตโทษ บาตชัวยี่ เอาบอลลงแล้วพลิกตัวยิงแต่น่าเสียดายที่ไม่ตรงกรอบ
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกม เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้ 2-0 เก็บเพิ่ม 3 คะแนนสำคัญขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงชั่วคราว โปรแกรมพรีเมียร์ลีกถัดไปมีคิว ออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Full-time: Chelsea 2-0 Crystal Palace!
That’s six Premier League wins on the bounce, after goals from @tammyabraham and @cpulisic_10! 🔥#CHECRY pic.twitter.com/bMK8U8mc1u
— Chelsea FC (@ChelseaFC) November 9, 2019
ไฮไลท์ เชลซี 2-0 คริสตัล พาเลซ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – รีส เจมส์, เคิร์ท ซูม่า, ฟิคาโย่ โทโมรี่, เอแมร์ซอน – เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช – วิลเลี่ยน, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช – แทมมี่ อบราฮัม
คริสตัล พาเลซ : บิเซนเต้ กวยต้า – โจเอล วอร์ด, เจมส์ ทอมกิ้นส์, แกรี่ เคฮิลล์, พาทริก ฟาน อานโฮลท์ – แอนดรอส ทาวน์เซนด์, ชีคู คูยาเต้, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, วิลฟรีด ซาฮา – จอร์แดน อายิว
