เทคโนโลยี

เปิดตัว Huawei Mate 30 และ Mate 30 Pro กล้องเทพ, สเปคจัดเต็ม แต่ไร้เงา Google Apps

ภาพ : Huawei

เปิดตัวไปอย่างเป็นทางการสำหรับ Huawei Mate 30 และ Mate 30 Pro ที่ตามคาด รูปแบบเหมือนภาพเรนเดอร์ที่หลุดออกมาเป๊ะ Mate 30 และ Mate 30 Pro มีจุดเด่นมากมาย แต่ก่อนจะไปดูสเปคต่างๆ ต้องบอกก่อนว่า อย่างที่รู้กัน หัวเว่ยเปิดตัวครั้งนี้ ไม่มี Play Store และ Google apps แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอ้ปผ่าน Huawei AppGallery และ Huawei Browser แทน Google Chrome ได้ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่าครั้งนี้ Huawei ใส่อะไรมาบ้าง

ภาพ : theverge

 

ไปเริ่มกันที่เรื่องของหน้าจอกันก่อน Mate 30 Pro ครั้งนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบขอบโค้ง ถึง 88 องศา ที่หัวเว่ยให้ชื่อว่า Horizon Display ขนาด 6.53 นิ้ว ไร้ขอบข้าง มิติหน้าจอเป็น 18.4:9 แบบ Flex OLED 2400×1179 พิกเซล Cinematic Colour พร้อม Anti Blue Light ลดการหล่อยแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสายตาได้ถึง 25% ขณะที่ Mate 30 รุ่นธรรมดา มาพร้อมจอแบบ FullView Display ขนาด 6.62 นิ้ว แบบ Rigid OLED มิติหน้าจอ 19.5:9 Cinematic Colour พร้อม Anti Blue Light ที่ปล่อยแสงสีฟ้าได้น้อยกว่าในรุ่นโฟร ถึง 65% Always-On Display ระบบสแกนลายนิ้วือใต้จอและ 3D Face Unlock

ภาพ : Huawei

ระบบเสียงแบบ Acoustic Display ที่เป็นการซ่อนละโพงไว้ใต้จอแทนช่องสำโพงสนทนาด่านบน นอกจากนี้ยังมี Side-Touch Interaction ที่ให้คุณกดและเลื่อนขอบจอด้านข้างเพื่อสั่งการลดหรือเพิ่มเสียงได้ทั้งซ้ายและขวา หรือแตะเพื่อถ่ายเซลฟี่ เพราะตัวเครื่องไม่มีปุ่มลด-เพิ่มเสียง มีเพียงปุ่มล็อคหน้าจอเท่านั้น

ภาพ : Huawei

Huawei Mate 30 และ 30 Pro มาพร้อมชิพเซ็ต Kirin 990 5G แบบ 7 นาโนเมตร EUV และเป็นรุ่นแรกที่รองรับ 5G ได้สองช่องทาง ทั้ง NSA และ SA, มีการออกแบบดีไซน์เสาอากาศสำหรับรับสัญญาณ 5G แบบให่ ที่มีเสาอากาศสำหรับรับสัญญาณ 5G โดยเฉพาะมากถึง 14 ตัว CPU ใน Kirin 990 ทำงานได้ดีขึ้นถึง 23% และประหยัดพลังงานขึ้นถึง 23% ขณะที่ GPU ทำงานดีขึ้น 39% และประหยัดพลังงานขึ้น 32% เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น, พูดถึงการใช้งานนาน Huawei Mate 30 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ 4500mAh และ Mate 30 ให้มา 4200mAh พร้อมระบบชาร์จไว 40 วัตต์ และรองรับชาร์จไร้สายได้ 27 วัตต์

ภาพ : Huawei

มาถึงจุดเด่นหลักของ Huawei ในครั้งนี้ นั่นคือเรื่องของกล้องหลัง ที่เป็นความร่วมมือกับ Leica ที่ครั้งนี้มาในรูปแบบวงกลม ตามคาด ที่หัวเว่ยเรียกรูปแบบนี้ว่า Halo Ring Design พร้อมเซ็นเซอร์กล้องหลัง 3 ตัว และเลเซอร์โฟกัส, Huawei Mate 30 มีเซ็นเซอร์กล้องหลักที่ความจะเอียด 40 ล้านพิกเซล แบบ RYYB ที่มีขนาดใหญ่กว่าทั้งใน Note 10+ และ iPhone 11 Pro หัวเว่ยเคลมว่าสามารถเก็บแสงได้มากกว่าถึง 137% ที่ค่า F1.8 ระยะเลนส์ 27 มม. ตัวที่สองเป็นเลนส์กว้างที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่ค่า F2.2 ระยะเลนส์ 17 มม. และ Telephoto เลนส์ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่า F2.4 ระยะเลนส์ 80 มม. OIS นอกจากนี้ยังรองรับ Macro Photography ที่ระยะ 2.5 ซม. สามารถดัน ISO ได้สูงถึง 204800

ภาพ : Huawei

ขณะที่ในรุ่น Mate 30 Pro ให้มาเหนือกว่า เริ่มด้วยเซ็นเซอร์กล้องหลัก 40 ล้านพิกเซล RGGB ที่ใหญ่กว่าในรุ่น Mate 30 ธรรมดา F1.6 OIS ตัวที่สองเลนส์กว้าง Ultra-Wide 40 ล้านพิกเซล ที่ค่า F1.8 ระยะเลนส์ 18 มม.และ Telephoto 8 ล้านพิกเซล ค่า F2.4 ระยะเลนส์ 80 มม. และ 3D Depth Sensing รุ่น Pro ยังมาพร้อม Pro-B0keh Dual OIS+AIS และ ISO ที่ดันได้ถึง 409600, ส่วนเรื่องความสามารถในการถ่ายวีดีโอก็ให้มาเต็มสูบ 4k 60fps, ISO 51200, Slow Motion 7680fps Real-time Bokeh, Dual OIS+AIS และ 4k HDR+ Time-lapse

ภาพ : Huawei

ส่วนของกล้องหน้า Mate 30 ให้มา 24 ล้านพิกเซล RGB ขณะที่รุ่น Pro ให้มามากกว่า ถึง 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์จับท่าทาง, 3D Dept camera, Proximity และ Ambiant Light เซ็นเซอร์. พร้อมเทคโนโลยี Pro-Bokeh effect, นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมมากมาย มั้ง Ozmo Mobile 3 และ Profoto ไฟเสริมแบบพกพา

ภาพ : Huawei

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Huawei Mate 30 RS ที่เป็นการออกแบบร่วมกันกับค่ายรถหรูชื่อดัง Porsche ที่มีจุดเด่นคือฝาหลังทำมาจากหนังแบบเดียวที่อยู่ในรถ Porsche และแถบหนังตรงกลางตัวเครื่องที่สามารถเลื่อนออกมาเป็นช่องสำหรับสอดนิ้วได้ มาพร้อมธีมพิเศษที่ออกแบบร่วมกับ Porsche อัด RAM มาให้ถึง 12GB และหน่วยความจำ 512GB

ภาพ : Huawei

 

Huawei Mate 30 เปิดตัวด้วยราคา 799 ยูโร (ประมาณ 26,900 บาท)

ภาพ : Huawei

 

Mate 30 Pro ราคาเปิดตัวที่ 1099 ยูโร(ประมาณ 37,000 บาท)

ภาพ : Huawei

 

Mate 30 Pro 5G ราคาเปิดตัวที่ 1199 ยูโร(ประมาณ 40,000 บาท)

ภาพ : Huawei

 

Huawei Mate 30 RS Porsche Design ราคาเปิดตัวที่ 2095 ยูโร(ประมาณ 70,000 บาท).

ภาพ : Huawei

ครั้งนี้เรียกได้ว่าหัวเว่ยเปิดราคามาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ขณะที่ตัวเองยังมีจุดอ่อนในเรื่องของ Google apps อยู่ ก็คงต้องรอดูเสียงตอบรับจากเหล่าแฟนๆหัวเว่ยว่าจะออกมาในทางบวกหรือลบ

 

Thaiger deals

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button