ข่าวภูมิภาค

หมอกระดูกชี้ ‘น้องโทนี่’ สันหลังคด ไม่เกี่ยวกับกระเป๋าหนัก

เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) นพ.กิตติพงษ์ วิทยาไพโรจน์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ (โรคกระดูกสันหลัง) โรงพยาบาลขอนแก่นราม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า อาการกระดูกสันหลังคดของด.ญ.ปารย์ทอง หรือ ‘น้องโทนี่’ ที่ผู้เป็นแม่คือ นางสุภาพ ดีบุญมี ณ ชุมแพ ระบุว่าเป็นเพราะกระเป๋านักเรียนแบบสะพายนั้น หนักเกินไป จริงๆ แล้วไม่น่าจะเป็นเพราะกระเป๋า แต่อาจเป็นกรรมพันธุ์ หรืออาการกล้ามเนื้อผิดปกติ

 

ภาพจาก สำนักข่าว INN

 

นพ.กิตติพงษ์ กล่าวว่า อาการปวดหลังหรือไหล่นั้น อาจเป็นผลข้างเคียงที่กล้ามเนื้อของเด็กที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นผลจากการที่กระดูกสันหลังไม่ปกติ แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของอาการกระดูกสันหลังคดงอได้ อาจเป้นเพราะกรรมพันธุ์ หรือภาวะอื่นๆ ซึ่งต้องรอผลตรวจจากทีมแพทย์เฉพาะทาง โดยภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป และผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ในช่วงประถมศึกษาตอนปลายถึงมัธยมศึกษาตอนต้น

 

ภาพจาก สำนักข่าว INN

 

อีกทั้ง นพ.กิตติพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า การสะพายของหนักนั้น ไม่เกี่ยวกับภาวะกระดูกสันหลังคด แต่จะทำให้ปวดกล้ามเนื้อได้ และอยากฝากบอกทุกคนว่าให้ดูแลร่างกายตัวเอง พร้อมทั้งสังเกตสรีระของคนใกล้ชิดว่าไหล่หรือซี่โครงผิดปกติหรือไม่ การนั่ง การยืน การเดินนั้น หลังยังตรงหรือไม่ หากพบความผิดปกติให้ปรึกษาแพทย์ ส่วนกรณีน้องโทนี่นี้ แนวทางการรักษามีเพียงวิธีเดียวคือการผ่าตัด

 

ภาพจาก สำนักข่าว INN

 

ขณะที่ ทางโรงเรียนชุมแพศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่น้องโทนี่เรียนอยู่ ได้มอบกระเป๋านักเรียนแบบล้อลากให้กับน้องโทนี่ โดย นายวิไลศักดิ์ วรรณศรี ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้พบกับทางแม่ของน้องโทนี่ในวันเดียวกัน และได้พูดคุยถึงอาการกระดูกสันหลังคดพร้อมดูฟิล์มเอกซเรย์

 

นายวิไลศักดิ์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้พูดคุยทำความเข่ใจกับนักเรียนเรื่องปัญหาน้ำหนักกระเป๋า และได้แนะนำวิธีการใช้กระเป๋าให้เหมาะสม เช่น การจัดวางสิ่งของให้น้ำหนักกระจายตัว การสะพายกระเป๋าให้กระชับแนบลำตัว ไม่ห้อยต่ำ การเดินตัวตรง ไม่เอนไปข้างหน้า หรือ การสะพายโดยใช้ทั้งสองไหล่เพื่อความสมดุล

ภาพจาก สำนักข่าว INN

 

ด้านนางสุภาพ ได้ขอบคุณทางโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าใจปัญหาและรับทราบถึงอาการของลูกสาว โดยเฉพาะการอนุญาตให้ลูกใช้กระเป๋าล้อลากไปโรงเรียนได้ โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะช่วยไม่ให้อาการสันหลังคดรุนแรงไปกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ได้มีการนัดกับแพทย์เพื่อตรวจติดตามผลอีกครั้ง

 

 

ที่มา Kapook

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button