บันเทิงภาพยนตร์

ครบรอบ 20 ปี ‘นางนาก’ ‘ทราย เจริญปุระ’ เล่าเบื้องหลัง ประสบการณ์สุดหลอน

ครบรอบ 20 ปี ‘นางนาก’ ‘ทราย เจริญปุระ’ เล่าเบื้องหลัง ประสบการณ์สุดหลอน: ข่าวภาพยนตร์

20 ปี นางนาก : ย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 คือวันฉายภาพยนตร์ตำนานรักพระโขนง “นางนาก” ที่แม้จะเป็นเรื่องราวที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีและถูกนำมาสร้างแล้วหลายครั้ง แต่แม่นาคพระโขนงฉบับอุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร เขียนบทโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง มีความสมจริงและน่ากลัวมากในยุคนั้น ถือเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของความน่ากลัวในหนังผีไทย สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้ถล่มทลายไปถึง 150 ล้านบาท เป็นภาพยนตร์ไทยร้อยล้านเรื่องแรก ที่น่าภูมิใจคือทำรายได้ชนะ Titanic ที่เข้าฉายในไทยอีกด้วย

ในโอกาสที่นางนากจะครบรอบ 20 ปี และเป็นการรำลึกถึงหนึ่งในตำนานภาพยนตร์ไทย ไท เอนเตอร์เทนเมนต์ร่วมกับ Mono Film จะนำ “นางนาก” กลับมาสั่นสะพรึ่งความหลอนอีกครั้งในโรงภาพยนตร์ ทั่วประเทศ วันที่ 25-31 ก.ค. 2562

ทราย เจริญปุระ นักแสดงหญิงผู้รับบทแม่นาก ได้โพสต์เล่าเบื้องหลังการถ่ายทำ ตั้งแต่การแคสติ้งที่พบเหตุการณ์ลี้ลับเหนือธรรมชาติ เบื้องหลังการถ่ายทำที่ผู้ชมหลายคนไม่เคยรู้ ไว้อย่างน่าสนใจ

ภาคลี้ลับ การแคสติ้ง

•เรื่องนี้แคสนางนากกันมาเป็นปี จนพี่อุ๋ย(ผกก)เซ็ง เลยบ่นว่า’ย่าอยากได้แบบไหนก็บอกมาสิคร้าบบบบ’ (กองเราเรียกนางนากว่าย่า) ปรากฏคืนนั้นแกฝันว่ามีผู้หญิง นุ่งโจงเขียว ห่มสีกลีบบัวมาหา แต่ไม่มีหัว พี่อุ๋ยเลยกลับมาตั้งสติหาใหม่ โดยยึดหุ่นในฝันเป็นหลัก
•เราไปแคสช่วงท้ายๆแล้ว วันนึงเค้าแคสกันซัก4-5คน โดยใช้กล้องวิดีโอแฮนดี้แคมเล็กๆ ก่อนหน้าเราก็มีคนแคสไปแล้ว พอถึงตาเรา ก็เกิดจะฝนตกฟ้าร้องขึ้นมาพอดี ทีมเอาทรีทเมนต์ให้อ่าน ซึ่งพี่ศิษฐ์(ศาสนเที่ยง)เขียนแบบภาษาโบราณ เป็นตอนนางนากรู้แล้ว ว่าผัวรู้ความจริงทั้งหมด ตอนนั้นฝนตก ลมพัด หมาหอน
•ปกติเสียงพวกนี้ไม่เข้าไมค์หัวกล้องนะ ด้วยคุณภาพกล้องยุคนั้น แต่นี่อัดติดหมด
•คนที่เราแคสต์คู่ด้วยคือพี่เมฆ ซึ่งก็อวยพรกันว่าขอให้ได้เล่นนะพี่นะ/นะน้องนะ
•วันรุ่งขึ้น ทีมงานเอาเทปแคสต์มาดู คนก่อนหน้าเราคือมีแต่ภาพ ไม่มีเสียง แล้วก็เป็นเรา มีภาพมีเสียงมาครบ คนหลังจากเรามีแต่เสียง ไม่มีภาพ
•พี่อุ๋ยรายงานย่าไปว่า เข้าใจแล้วครับ โอเคคนนี้เล่น
•ตอนแรกคนที่เราเล่นด้วยไม่ใช่พี่เมฆ ถ่ายไปนิดหน่อยแล้วพี่อุ๋ยรู้สึกว่าไม่ใช่ ก็เลยเรียกพี่เมฆกลับมา
•สุดท้ายคนที่แคสคู่กันก็ได้เล่นกันจริงๆตามที่อวยพรกันเอง”

https://www.facebook.com/anythingbutITR/posts/10162088696450245

เบื้องหลังฟันดำ

•ที่ทุกคนคิดว่าทาฟันดำ จริงๆแล้วคือสีแดงเข้ม เพราะทีมงานค้นคว้ามาว่า คนที่กินหมากไปนานๆ ต้องคอยขัดฟันให้เรียบ เพื่อให้ฟันจะเป็นสีแดงก่ำ ด้วยความเชื่อว่า(ในสมัยนั้น)ฟันขาวคือฟันหมาหรือฟันผี
•ตอนนั้นต้องไปหาหมอฟันเพื่อพิมพ์ฟัน หล่อออกมาด้วยพลาสติกบางๆ แล้วครอบฟันไปอีกที
•ปัญหาของครอบฟันนี้ คือจะกินอะไรแทบไม่ได้เลย มันจะแตก และเพราะความบางมาก ถ้าใส่ไปนานๆ มันจะดูดติดกับเหงือก เวลาจะถอดคือบีบให้แตกจากในปาก แล้วคายออกมา เรื่องนี้ใช้กันคนละหลายอัน
•หมากที่ใช้ในเรื่องมาจากดอกคำฝอยแห้ง เรากับพี่เมฆเคยลองกินหมากจริงแล้ว ยันหมากกันพินาศ เหงื่อแตกวิงเวียน เลยมาลงตัวที่ดอกคำฝอยแห้ง ซึ่งมีสรรพคุณการลดน้ำตาลในเลือด กองนี้เลยต้องคอยเสิร์ฟน้ำแดงให้เราสองคนเรื่อยๆ กันวูบ
•บ้านในหนังคือสร้างขึ้นมาจริงๆโดยทีมอาร์ต และเผาทิ้งจริงๆในฉากท้ายเรื่อง
•ศาลาท่าน้ำที่ยืนรอคือเซ็ทขึ้นมาที่คลองบางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา แต่ถ่ายเสร็จก็เอาไว้งั้นเลย
•ห้อยหัวจริง ในหอฉันโบราณที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันนี้รื้อไปแล้ว อุปสรรคในการถ่ายฉากนี้คือ, วันถ่ายทำ เสาตกน้ำมันหนักมาก
•น้อนเหี้ยในเรื่องจริงๆคือน้อนเป็นมังสวิรัต แต่เราเอาน้องมาขืนใจให้กินเนื้อวัวให้ดูสมจริง น้อนจึงพากันตายใส่ กว่าน้อนจะฝึกให้กินเนื้อได้ ก็ตายไปหลาย
•ฉากพี่เมฆอาบน้ำคลองและมีหนูลอยผ่าน คือทำการฆาตกรรมหนูจริง ลอยในน้ำจริง แต่หนูจม เลยทำการยัดโฟมในท้องหนูที่เพิ่งฆาตกรรมไป ให้หนูลอย
•จบเรื่องนี้ ทีมเซ็ตทุกคน รวมถึงพี่อุ๋ย บวชกันหมด

https://www.facebook.com/anythingbutITR/posts/10162088285695245

หน้ากอง

•เราเวิร์คชอปกันสามเดือน อาบแดด หัดเกี่ยวข้าว เจียนหมาก อาบน้ำคลอง พายเรือ ระหว่างนั้นก็รอให้บ้านที่สร้างไว้เก่าสมจริง
•ทุกคนโดนสั่งให้ถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่ากับดิน ไม่งั้นถ้าอยู่ๆถอดรองเท้ามาเดินเลย จะดูแหยงๆเดินไม่เต็มเท้า และเรามีรอยขอบถุงเท้าเพราะใส่ผ้าใบ+รองเท้านักเรียนมาตลอดชีวิต ต้องเปลี่ยนมาใส่แตะไปไหนมาไหนแทน
•ฉากมัดตราสังคือมัดจริง ลงคาถาจริงทุกเปลาะ ทุกห่วง
•เสียงฮัมเพลงอันหลอนหูนั้น ไม่ใช่เสียงเรา เสียงเราร้องเฉพาะตอนเพลงกล่อมลูกในหนัง
•พี่เมฆทรมานกับฉากวิ่งฝ่าป่าหญ้าคามาก เพราะไม่มีใครเคลียร์ทางให้ก่อนได้เลย ไม่งั้นหญ้าจะล้ม ไม่สวย แกเลยต้องถอดเสื้อวิ่งฝ่าป่าหญ้าสูงท่วมหัวไปอย่างมืดมน
•ฉากที่เล่นด้วยกันและพี่เมฆหลายเทคมาก คือฉากที่ด่าเพื่อนให้เราฟัง’ไอ้พวกปากบอนพรรค์นี้’ แกจะติดเป็น’ปากบอล’ตามสำเนียง พอเกร็งมาก พูดชัด แอคติ้งก็ไม่ได้ พอแอคติ้งได้ ก็พูดไม่ชัด วนไปค่ะ
•ฉากโกนหนวดให้พี่เมฆ ฝ่ายอาร์ตลับมีดมาคมขาววับ แต่เราต้องโกนทั้งที่ไม่เห็น เพราะไม่งั้นมุมกล้องไม่ได้ พี่เมฆใจกล้า บอกโกนเลย ถ้ารู้สึกเปียกๆก็หยุดละกัน
•ถ่ายป่าช้าจริง ชาวบ้านมาบอกว่าผีดุมาก แล้วไปรอฟังผลนอกกอง
•น้าหมอผีมีคัทเดียวแล้วตาย แต่ด้วยสปิริต แกเลยนอนตายเงยหน้า เลยต้องนอนคาฉากนั้นไปทั้งคืน
•ซึ่งฉากนั้นถ่ายกัน4คืน
•ฉากเผาบ้านคือเผาจริง แต่ไฟรอบแรกไม่สวย ซึ่งก็ได้อีกแค่รอบเดียวเพราะจากมุงหลังคากับไม้ไผ่ทำบ้านมันจะไปหมดแล้ว ทุกคนเลยเร่งไฟแก๊สและโถมกาวยางลงไปทุกอณู
•คราวนี้ไฟพุ่งถึงหลังเราเลย
•แต่เราเล่นเป็นผี ห้ามร้อง เลยกลั้นใจเล่นจนจบ พี่อุ๋ยก็ไม่สั่งคัทซักที จนฟิล์มรันเอาท์ เดินลงมา หน่วยดับเพลิงเอาเจลเย็นโปะหลังช่วยผีที่ประสบภัยทันที
•วันรุ่งขึ้นเป็นวันสงกรานต์ กองหยุด เราเข้าไปทำงาน โดนคนสาดน้ำใส่หลังอันพุพอง อีเวง อยากหักคอ
•ทีมงาน80%ของเรื่องนี้ตัดผมทรงเดียวกับเรา คือใช้ปัตตาเลี่ยนตั้งเบอร์3แล้วไถถถถถถถถ

https://www.facebook.com/anythingbutITR/posts/10162088771145245

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button