ข่าวการเมือง

“เท้ง ณัฐพงษ์” ขอโทษปม “บุญฤทธิ์” ชี้เป็นเหตุสุดวิสัย ย้ำจุดยืน “มีส้มไม่มีเทา”

“เท้ง ณัฐพงษ์” ขอโทษประชาชนปม “บุญฤทธิ์” ถูกจับ ชี้เป็นเหตุสุดวิสัยหมายจับออกหลังตรวจสอบประวัติ ย้ำจุดยืน “มีส้มไม่มีเทา”

29 ธันวาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ อดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร (บางพลัด-บางกอกน้อย) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมในข้อหาฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยระบุว่า แม้ในทางกฎหมายคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทางพรรคได้ดำเนินการจัดการทันที เพราะยึดมั่นในหลักการที่ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องมีมาตรฐานความรับผิดชอบที่สูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย จะอ้างเพียงแค่กระบวนการยังไม่สิ้นสุดไม่ได้

หัวหน้าพรรคประชาชน ได้กล่าวแสดงความเสียใจและขอโทษต่อพี่น้องประชาชน โดยระบุว่า “สิ่งที่คุณพิจารณ์ได้แถลงไปเมื่อเช้านี้ต้องแสดงความเสียใจและขอแสดงความขอโทษต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนอีกครั้ง พวกเราเองทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ พัฒนากระบวนการคัดสรรผู้สมัครดีขึ้นแล้ว เราจะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย” ซึ่งสาเหตุหลักมาจากหมายจับเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนหน้านั้นไม่พบข้อมูลความผิดปกติใดๆ

นายณัฐพงษ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พรรคได้ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดและเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนมานานแล้ว แต่ไม่มีข้อมูลใดๆ ที่บ่งชี้ถึงเรื่องการฟอกเงินส่งเข้ามา จึงถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่พรรคไม่ได้นำมาใช้เป็นข้ออ้าง แต่เลือกที่จะกล่าวคำขอโทษและมุ่งมั่นทำทุกอย่างให้ดีขึ้นต่อไป สำหรับประเด็นการส่งผู้สมัครใหม่นั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคยืนยันว่ายังสามารถทำได้ทันเวลา โดยจะเร่งดำเนินการสรรหาผู้สมัครที่มีอุดมการณ์แน่วแน่และไม่มีประวัติด่างพร้อย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
FB/ Friends Talk

ในส่วนของผลกระทบต่อแคมเปญหาเสียง “มีส้มไม่มีเทา” นั้น นายณัฐพงษ์ ยืนยันหนักแน่นว่า “ผมเชื่อว่าถ้าก่อนหน้านี้เราตรวจสอบแล้วพบประวัติอาชญากรรมในระบบ เช่น การออกหมายเรียกมาก่อน เราไม่ส่งอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้ไม่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อนหน้าวันที่ 17 ธ.ค. รวมถึงกระบวนการรับฟังความคิดเห็นก็ไม่มีใครส่งเรื่องเข้ามาในพรรค ซึ่งจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนช่วงรับสมัครมีการสลับชื่อเข้าออกทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อแสดงให้เห็นถึงกระบวนการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้านจากประชาชน” พร้อมย้ำว่าการไม่ปกป้องพวกพ้องและการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา คือเครื่องพิสูจน์ถึงความโปร่งใสของพรรค

นายณัฐพงษ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีผู้สมัครจากพรรคอื่นนำประเด็นนี้มาโจมตี โดยฝากตั้งคำถามกลับไปยังสังคมว่า “ลองตั้งคำถามว่าผู้สมัครหรือตัวแทนที่แต่ละพรรคได้นำเสนอใครเคยมีประวัติอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องมาก่อนบ้างหรือไม่ ถ้ามี ถึงแม้คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุดจริงๆ ทำไมคุณถึงส่งต่อ แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่ามาตรฐานการเป็นผู้แทนประชาชน ความรับผิดรับผิดชอบทางการเมืองต้องสูงกว่าความรับผิดรับผิดชอบทางกฎหมาย พรรคประชาชนก็ได้แสดงออกไปแล้วว่าแม้คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เราก็ถอดออกจากเป็นผู้สมัคร”

สุดท้าย หัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่าแม้จะเหลือเวลาในการรับสมัครเพียง 2 วัน แต่หากมีข้อจำกัดทางกฎหมายจนทำให้ส่งผู้สมัครไม่ทันจริงๆ ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียใจที่ประชาชนในเขต 33 จะขาดทางเลือก แต่พรรคจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาโอกาสในการเสนอตัวแทนที่ดีที่สุดให้กับชาวกรุงเทพฯ

ที่มา: สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button