หมอวรงค์ ชูนโยบาย ยกเลิกแบงก์ 1,000-500 หวังดัดหลังพวกโกงกิน ธุรกิจสีเทา

“หมอวรงค์” ประกาศนโยบาย เสนอยกเลิกธนบัตรใบละ 1,000 และ 500 บาท เพื่อสกัดเส้นทางเงินสีเทา พร้อมดันโทษประหารชีวิตคนทุจริต
26 ธันวาคม 2569 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง พรรคไทยภักดีจะยกเลิกแบงค์ 1,000 และแบงค์ 500 โดยเนื้อหาระบุว่า
การปราบโกง(สีเทา) ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ความมุ่งมั่นของผู้มีอำนาจ, เพิ่มโทษประหารชีวิต ถ้าโกงเกิน 100ล้าน และต้องประหารภายใน 15 วัน, ต้องไม่มีสิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ และเพิ่มอำนาจประชาชนฟ้องตรงต่อศาล ถ้าชนะประชาชนมีสิทธิ์ได้รับรางวัล
ประเด็นสำคัญอีกอย่างคือต้องยกเลิกแบงค์ 1000 และแบงค์ 500 เพราะเงินเทา ส่วนใหญ่จะเก็บใส่รังในรูปของเงินสด เป็นแบงค์ 1000 หรือแบงค์ 500
การจ่ายสินบนเงินทุจริต ก็มักจะใช้เงินสดจ่าย เพราะหาหลักฐานยากมาก ถ้าจ่ายด้วยการโอนแบบ ประชาชนทั่วไป จะมีหลักฐานและตามเส้นทางเงินได้ หรือจ่ายเป็นสิ่งของ อาคารชุด จะมีหลักฐานเกิดขึ้น หรือแม้จะเปิดบัญชีม้า สุดท้ายบัญชีม้าก็ต้องปิดและส่วนใหญ่จะถอนเป็นเงินสด เพื่อส่งต่อให้นายเป็นทอด ๆ การส่งส่วยในรายการ ตามที่ปรากฏผ่านสื่อ ล้วนใช้เงินสดทั้งสิ้น

พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่มอบเงินให้ ผู้สมัครส.ส. ก็มักใช้เงินสด บ้านนักการเมืองใหญ่จึงมักจะมีห้องลับเพื่อเก็บเงินสด ในอดีตก็เคยมีบุกจับอดีตอธิบดีกรมทางหลวงคนหนึ่ง ก็มีเงินแบงค์พันหลายร้อยลัง เก็บไว้ที่บ้าน
องค์ประกอบของการปราบทุจริต ก็คือการยกเลิกแบงค์ 1000 และแบงค์ 500 ซึ่งไม่เดือดร้อน สุจริตชนทั่วไป เพราะสามารถใช้การโอนเงินได้ ส่วนผู้สูงอายุก็สามารถใช้แบงค์ร้อย แบงค์ 50 บาท แบงค์ 20 บาทได้
เมื่อประกาศยกเลิกเช่นภายใน 3 เดือน คนที่ขนเงินจำนวนมากมาฝากธนาคาร ก็ต้องรายงานที่มาที่ไป ของเงินสดจำนวนมาก รวมทั้งการเสียภาษี พรรคไทยภักดีจึงประกาศนโยบายยกเลิกแบงค์ 1000 และแบงค์ 500 เพื่อเป็นองค์ประกอบนโยบายปราบโกง
หมายเหตุ : อินเดียเคยประกาศยกเลิกแบงค์ 1000 แต่ต้องเอามาเปลี่ยนรุ่นใหม่ จีนหลายเมืองไม่รับเงินสดเช่น เซี่ยงไฮ้ ต้องจ่ายผ่านแอพเท่านั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘หมอวรงค์’ คัมแบ็ก! นั่งหัวหน้า พรรคไทยภักดี ลั่นภารกิจยกเครื่องประเทศ
- ส่องผล นิด้าโพล เกือบครึ่ง “หาคนเหมาะไม่ได้” แต่ พรรคประชาชน ยังตัวเต็งความนิยม
- “จาตุรนต์ ฉายแสง” ลาออก ทิ้งเก้าอี้ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





