ข่าวต่างประเทศ

นาซาพบเบาะแสใหม่ “ดาวไททัน” อาจมีสิ่งมีชีวิตใต้ “บ่อโคลนน้ำแข็ง”

นาซาพบเบาะแสใหม่ บน “ดาวไททัน” อาจมีสิ่งมีชีวิตซ่อนตัวอยู่ใน “บ่อโคลนน้ำแข็ง” ใต้เปลือกดาว

ภายใต้เปลือกดาวของวัตถุท้องฟ้าที่นาซาเคยเปรียบเปรยว่าเป็นเหมือน โลกใบที่ 2 อาจซ่อนสภาพแวดล้อมที่คล้ายคลึงกับทะเลแถบขั้วโลกของเรา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตต่างดาว

งานวิจัยล่าสุดจากห้องปฏิบัติการแรงขับเคลื่อนไอพ่น หรือ เจพีแอล (JPL) ของนาซา เปิดเผยข้อมูลที่พลิกความเชื่อเดิมเกี่ยวกับ ไททัน ดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าใต้พื้นผิวดาวมีมหาสมุทรขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ ผลการศึกษาใหม่ชี้ว่าไททันอาจไม่ได้มีมหาสมุทรครอบคลุมทั่วทั้งดวงอย่างที่คิด แต่นี่กลับเป็นข่าวดีสำหรับการค้นหาลายแทงสิ่งมีชีวิตนอกโลก

ไททันถือเป็นดวงดาวที่มีภูมิทัศน์คล้ายคลึงกับโลกมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีทั้งแม่น้ำ ทะเลสาบ และทะเล แต่สิ่งที่แตกต่างคือของเหลวบนพื้นผิวนั้นไม่ใช่ขั้วน้ำ แต่เป็นก๊าซมีเทนเหลว นักดาราศาสตร์เชื่อกันมานานแล้วว่าหากจะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้ มันน่าจะอาศัยอยู่ในชั้นน้ำใต้ดินที่ได้รับความร้อนจากแกนกลาง มากกว่าจะอยู่ในบ่อมีเทนบนพื้นผิว

ทีมวิจัยของนาซาวิเคราะห์ข้อมูลใหม่และพบว่า โครงสร้างภายในของไททันน่าจะประกอบไปด้วยชั้นน้ำแข็งและโคลนหนา คล้ายกับสภาพแวดล้อมของทะเลแถบขั้วโลกบนโลกมนุษย์ แม้ฟังดูแล้วอาจไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการมีมหาสมุทรใต้พิภพ แต่แอ่งน้ำที่ละลายแทรกตัวอยู่ในชั้นน้ำแข็งเหล่านี้ คือพื้นที่ที่สิ่งมีชีวิตอาจกำลังเติบโตและขยายพันธุ์อยู่อย่างหนาแน่น

นาซาพบเบาะแสใหม่ บน ดาวไททัน อาจมีสิ่งมีชีวิตซ่อนตัวอยู่ใน บ่อโคลนน้ำแข็ง ใต้เปลือกดาว

แบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นว่า แอ่งน้ำกับโคลนเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ใต้เปลือกน้ำแข็งที่มีความหนาประมาณ 170 กิโลเมตร และอาจลึกลงไปถึง 550 กิโลเมตร ที่สำคัญคืออุณหภูมิของน้ำในแอ่งเหล่านี้อยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต

การค้นพบครั้งนี้มาจากการสังเกตปรากฏการณ์ แรงไทดัล หรือแรงดึงดูดระหว่างดวงดาว เนื่องจากไททันจะหันหน้าด้านเดียวเข้าหาดาวเสาร์เสมอ แรงดึงดูดมหาศาลของดาวเสาร์ทำให้พื้นผิวของไททันบิดเบี้ยวและปูนนูนขึ้นสูงถึง 10 เมตรเมื่อโคจรเข้าใกล้กันมากที่สุด

นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีวัดความหน่วงของเวลา พบว่ามีช่วงเวลาห่างกันประมาณ 15 ชั่วโมง ระหว่างตอนที่แรงดึงดูดสูงสุดกับตอนที่พื้นผิวดาวนูนตัวขึ้นสูงสุด หากใต้พื้นผิวเป็นมหาสมุทรของเหลวขนาดใหญ่ ปฏิกิริยานี้ควรเกิดขึ้นทันที แต่ความล่าช้าที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่าโครงสร้างภายในมีความหนืดเหมือนโคลนน้ำแข็งที่มีแอ่งน้ำแทรกตัวอยู่ ไม่ใช่ของเหลวอิสระทั้งหมด

บัปติสต์ จูร์โนซ์ ผู้ร่วมวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ยืนยันว่าการค้นพบนี้เป็นเหตุผลที่ดีเยี่ยมที่จะทำให้เรายังคงมีความหวังในแง่บวก เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกในอนาคต

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button